Chat with us, powered by LiveChat

คำถามที่ปรึกษาบ่อย

 

01. สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร  02. ขอเพิกถอนนิติกรรมให้ที่ดินเพราะผู้รับไม่เลี้ยงดู
03. ถูกฟ้องคดีหนี้ธนาคาร มีผู้ค้ำประกัน และการยึดเบี้ยบำนาญ  04. ฉ้อโกงเรียกเงินคืน หลอกให้รัก
05. มิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนเปิดร้านขายกาแฟออนไลน์  06. ยึดเบี้ยบำนาญได้หรือไม่
07. เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เรียกค่าเสียหายอะไรได้บ้าง  08. ลูกเนรคุณ เรียกที่ดินคืนได้หรือไม่
09. ทรัพย์มรดก แบ่งไม่ได้ ตกลงกันไม่ได้ ขายทอดตลาดครับ  10. คืนรถไฟแนนซ์ไม่ติดค้างค่าเช่าซื้อ ไม่ต้องรับผิดชอบสวนต่าง
 11. ฟ้องกู้ยืมเงินต้องทำอย่างไร  12. ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ เพราะมีหมายจับ
 13. เลิกจ้างเพราะเหตุชู้สาว 14. มีหมายจับ มอบตัวหรือหนีดีครับทนาย 
 15. ฉี่สีม่วง ทำไงต่อครับ  16. ต้องการทนายราชบุรี ฟ้องหย่ามีมั้ยคะ
 17. สรรพสามิต เรียก รับ เงิน ร้านหนูแบ่งขายสุรา (ขวดกระทิงแดง)  18. สั่งซื้อสินค้าออนไลน์กับ Shopee สินค้าหาย ใครรับผิดชอบ
 19. จัดการมรดกต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง  20. เจ้าหนี้โพสต์ประจานควรทำอย่างไร
 20. ฟ้องผี ต้องเตรียมเอกสารอะไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่                       21. สู้คดีฉ้อโกง ร่วมกันปล่อยกู้เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด   
 22. ยืมเงินพระแล้วไม่คืน  
   
   
   
   
   
   
   
   

01. สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายรายวัน โดยทนายภูวงษ์
จังหวัดพิจิตร | เวลา 16.43 น.
โทร. 081 803 4097

คำถาม: ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่มีบุตรด้วยกัน 1 คน
หากฝ่ายชายต้องการสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร จะต้องดำเนินการอย่างไร?

คำตอบ: ฝ่ายชายจะต้องดำเนินการ “รับรองบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” ก่อน ถึงจะมีสิทธิ์โดยชอบในฐานะผู้ปกครองร่วมกับมารดา ซึ่งสามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่:

บิดามารดาไปจดรับรองบุตรที่อำเภอร่วมกัน
ต้องมีหลักฐานยืนยันความเป็นบิดา เช่น สูติบัตร, ดีเอ็นเอ ฯลฯ
มารดาต้องยินยอม

บิดายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้รับรองบุตร
ใช้เมื่อฝ่ายหญิงไม่ยินยอม
ศาลจะพิจารณาจากหลักฐาน เช่น ผลตรวจ DNA ความสัมพันธ์ ฯลฯ

กรณีฝ่ายหญิงเสียชีวิต
บิดายื่นคำร้องต่ออำเภอพร้อมหลักฐานแสดงความเป็นบิดา

เมื่อรับรองบุตรได้แล้ว ฝ่ายชายสามารถขออำนาจปกครองร่วม หรือยื่นขออำนาจเลี้ยงดูบุตรต่อศาลได้ต่อไป

หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม หรือให้ทนายช่วยยื่นคำร้องต่อศาล
ติดต่อ ทนายภูวงษ์ โทร. 081 803 4097 ได้เลยครับ

หากต้องการแบบโพสต์ Facebook หรือแผ่นพับสรุปคำถามรายวัน บอกนิติได้นะครับ ยินดีจัดให้ครับ

ถ้าฝ่ายชายต้องการให้ ทนายความดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลโดยตรง เพื่อขอ “รับรองบุตร” และ “ขออำนาจปกครอง/เลี้ยงดูบุตร” ทนายภูวงษ์แนะนำให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ:

ขั้นตอนการให้ทนายดำเนินคดีขอสิทธิเลี้ยงดูบุตรในกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส
1. เตรียมเอกสารหลักฐานเบื้องต้น
เอกสารที่ทนายจะใช้ในการยื่นคำร้องต่อศาล ได้แก่:

สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของฝ่ายชาย

สูติบัตรของบุตร (ชื่อบิดาต้องมีหรือไม่มีก็ได้ — ถ้าไม่มีต้องใช้หลักฐานทางชีวภาพเพิ่มเติม)

หลักฐานที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตร เช่น:

ภาพถ่ายร่วมกับบุตร

สลิปค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู

บันทึกการแชท หรือข้อความที่แสดงความเป็นบิดา

ผลตรวจ DNA (ถ้ามี จะช่วยให้คดีเร็วขึ้นมาก)

2. มอบอำนาจให้ทนายความ
ทนายจะจัดทำหนังสือมอบอำนาจให้ลงนาม

หากอยู่ต่างจังหวัด ทนายสามารถส่งเอกสารให้เซ็นผ่านไปรษณีย์ได้

3. ทนายยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว
ยื่นคำร้อง ขอรับรองบุตร และ/หรือ ขอใช้อำนาจปกครองบุตร

ศาลจะนัดไต่สวน มารดาและพยานอาจต้องเข้าร่วม

หากไม่มีการคัดค้าน และมีหลักฐานเพียงพอ ศาลจะมีคำสั่งให้เป็น “บิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย” และกำหนดสิทธิการปกครองร่วม

4. แจ้งผลคำสั่งศาลกับอำเภอ
เมื่อศาลมีคำสั่งแล้ว ทนายสามารถดำเนินการแจ้งผลกับนายทะเบียน เพื่อให้บุตรเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของฝ่ายชาย

หมายเหตุเพิ่มเติม:
กรณีมารดาไม่ยินยอม ก็สามารถฟ้องศาลได้ ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมก่อน

ศาลจะดู “ประโยชน์สูงสุดของเด็ก” เป็นหลัก

หากต้องการขออำนาจเลี้ยงดูโดยเฉพาะ (กรณีเด็กอยู่กับฝ่ายหญิงแล้วดูแลไม่ดี) ก็สามารถขอแยกได้

หากต้องการให้ ทนายภูวงษ์ช่วยดำเนินการทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นถึงศาลมีคำสั่ง
โทร. 081 803 4097
หรือแจ้งให้นิติร่างเอกสารมอบอำนาจ-คำร้องศาลเบื้องต้นให้ก็ได้ครับ

 

 

02. ขอเพิกถอนนิติกรรมให้ที่ดินเพราะผู้รับไม่เลี้ยงดู

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม: พี่ทนายคะ ตากับยายหนูโอนที่ดินให้กับลูกหลานไปแล้ว แต่คนที่ได้รับที่ดินกลับไม่เลี้ยงดู ไม่ส่งเสีย ไม่ดูแล ตากับยายอยากเพิกถอนการให้ที่ดิน หนูควรดำเนินการอย่างไรคะ

คำตอบ: ในกรณีนี้สามารถดำเนินการ ฟ้องขอเพิกถอนการให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 ซึ่งบัญญัติว่า...

“ถ้าผู้รับให้ประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ให้โดยการดูหมิ่น ดูแคลน ประพฤติไม่เลี้ยงดูตามฐานานุรูป หรือไม่ทำหน้าที่ตามสัญญาที่ตกลงไว้ ผู้ให้มีสิทธิฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการให้ได้”

แนวทางดำเนินการ:

ตรวจสอบหลักฐานการให้ที่ดิน
เช่น โฉนดที่ดิน, หนังสือสัญญาการให้, หลักฐานการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน

รวบรวมพยานหลักฐาน
เพื่อพิสูจน์ว่า ผู้รับที่ดินไม่เลี้ยงดู ไม่ดูแล เช่น

คำให้การของญาติหรือเพื่อนบ้าน

หลักฐานทางการแพทย์ของตากับยาย

บันทึกข้อความหรือเหตุการณ์ที่แสดงถึงการทอดทิ้ง

ยื่นฟ้องศาล
ให้ตากับยายเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาล ขอให้ เพิกถอนนิติกรรมการให้ และให้โฉนดที่ดินกลับคืนเป็นของตากับยาย

ข้อควรระวัง:

การฟ้องเพิกถอนต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันที่รู้เหตุเพิกถอน

และต้องไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่ให้ที่ดินไป

สรุป:
ตากับยายสามารถยื่นฟ้องศาลเพื่อเพิกถอนนิติกรรมให้ที่ดินได้ หากพิสูจน์ได้ว่าผู้รับที่ดินไม่เลี้ยงดู ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ควรรีบดำเนินการก่อนพ้นอายุความ และปรึกษาทนายความเพื่อร่างคำฟ้องและดำเนินคดีให้ถูกต้องครับ

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097

 

 

03. ถูกฟ้องคดีหนี้ธนาคาร มีผู้ค้ำประกัน และการยึดเบี้ยบำนาญ

หัวข้อ: ถูกฟ้องคดีหนี้ธนาคาร มีผู้ค้ำประกัน และการยึดเบี้ยบำนาญ

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม (จากจังหวัดนครสวรรค์ อำเภอเมือง วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.21 น.)
พี่ทนายครับ ผมถูกธนาคารกรุงไทยฟ้องคดีหนี้กู้ยืม เป็นหนี้ประมาณ 1.9 ล้านบาท และมีผู้ค้ำประกันร่วมด้วย ผมได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับธนาคารโดยจะชำระหนี้เดือนละ 20,000 บาท แต่ผมผิดนัดมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ผมจะถูกฟ้องล้มละลายหรือไม่ครับ และหากผมจะเกษียณราชการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยจะได้รับเบี้ยบำนาญเดือนละประมาณ 30,000 บาท เงินเบี้ยบำนาญนี้จะถูกยึดหรืออายัดได้หรือไม่ครับ?

คำตอบ
1. การฟ้องล้มละลาย
ในกรณีที่เจ้าหนี้มีมูลหนี้เกินกว่า 2 ล้านบาท และลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องขอฟ้องล้มละลายได้ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีที่เจ้าหนี้จะเลือกใช้ช่องทางนี้ เพราะกระบวนการล้มละลายต้องใช้ค่าใช้จ่ายและเวลามาก และต้องมีหลักฐานว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินให้พิทักษ์ทรัพย์

อย่างไรก็ตาม หากธนาคารทราบว่าคุณจะได้รับบำนาญในอนาคต หรือมีทรัพย์สินอื่น ก็อาจใช้เป็นเหตุผลในการยื่นฟ้องล้มละลายได้

2. เบี้ยบำนาญราชการถูกยึดหรืออายัดได้หรือไม่?
ตามกฎหมาย เงินเบี้ยบำนาญของข้าราชการถือเป็นทรัพย์สินที่ได้รับการคุ้มครอง
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 461 (6) และ พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494
ห้ามมิให้อายัดหรือยึดเบี้ยบำนาญได้ ยกเว้นบางกรณี เช่น

หนี้จากคดีอาญาที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ชดใช้

หนี้ค่าเลี้ยงดูบุตรหรือค่าอุปการะเลี้ยงดูตามคำพิพากษา

ดังนั้น หนี้กู้ยืมจากธนาคาร ไม่สามารถอายัดเบี้ยบำนาญของคุณได้ แต่หากคุณมีทรัพย์สินอื่น เช่น บัญชีเงินฝาก บ้าน รถยนต์ หรือเงินอื่นที่ได้จากการขายทรัพย์ อาจถูกยึดได้ตามกระบวนการบังคับคดี

3. ควรทำอย่างไรต่อไป?

คุณควรตรวจสอบว่ามีคำพิพากษาหรือยัง และอยู่ในขั้นตอนบังคับคดีหรือไม่

หากธนาคารยังไม่ฟ้องล้มละลาย แนะนำให้เจรจาประนอมหนี้ใหม่อีกครั้ง

หากมีผู้ค้ำประกัน อาจต้องเจรจาร่วมกันเพื่อไม่ให้ผู้ค้ำได้รับผลกระทบมากเกินไป

สรุป
คุณอาจถูกฟ้องล้มละลายได้ หากธนาคารเห็นว่าคุณมีทรัพย์สินที่สามารถพิทักษ์ได้ตามกฎหมาย แต่ เบี้ยบำนาญราชการของคุณไม่สามารถถูกยึดหรืออายัดได้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ควรหาทนายเพื่อตรวจสอบสถานะคดีและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097
หากต้องการทนายช่วยตรวจสอบสถานะคดีหรือเจรจากับธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการฟ้องล้มละลาย ยินดีให้คำปรึกษาครับ

 

 

04. ฉ้อโกงเรียกเงินคืน หลอกให้รัก

หัวข้อ: ฟ้องเรียกเงินคืนจากชายที่หลอกให้โอนเงินด้วยการอ้างความรัก
ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม:
พี่ทนายคะ หนูอยากฟ้องผู้ชายที่หลอกเอาเงินหนูไปดูแลครอบครัวเขา เขาบอกว่าไม่มีภรรยา หนูหลงเชื่อและคบกันเป็นแฟน ระหว่างคบกันเขาอ้างว่าป่วย รถเสีย ฯลฯ ขอให้หนูโอนเงินให้ก่อน แล้วจะคืนทีหลัง แต่ตอนนี้ข้อความหลักฐานลบไปหมดแล้ว หนูอยากได้เงินคืน ต้องฟ้องใครบ้าง และทำอย่างไรถึงจะได้เงินคืนคะ

คำตอบ:
หากผู้ชายคนดังกล่าวมีเจตนา “หลอกลวง” ให้โอนเงิน โดยอ้างสถานะและเหตุจำเป็นต่างๆ ทั้งที่ไม่เป็นความจริง อาจเข้าข่าย “ฉ้อโกง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ทั้งทางแพ่ง (เรียกเงินคืน) และทางอาญา (ฟ้องคดีฉ้อโกง)

สิ่งที่ควรดำเนินการ:

รวบรวมพยานหลักฐานที่ยังพอมีอยู่

หลักฐานการโอนเงิน (สลิป/รายการเดินบัญชี)

พยานบุคคลที่ทราบว่าเคยคบหากันจริง

ข้อความแชทที่อาจกู้คืนได้จาก LINE / Facebook / Messenger / อีเมล

รูปภาพหรือข้อความที่แสดงความสัมพันธ์

แจ้งความร้องทุกข์

ไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่โอนเงิน หรือที่เขาอยู่ เพื่อแจ้งความฐานฉ้อโกง

แนบเอกสารและข้อมูลที่รวบรวมไว้ เพื่อให้ตำรวจสืบสวนและดำเนินคดี

ดำเนินคดีแพ่งเพื่อเรียกเงินคืน

ถ้ามีหลักฐานพอควร สามารถฟ้องเรียกเงินคืนในฐานะ “ลาภมิควรได้” หรือ “เบี้ยวหนี้ที่อ้างว่าจะคืน”

สามารถให้ทนายความดำเนินการยื่นฟ้องที่ศาลในพื้นที่จำเลยอาศัยอยู่ หรือที่โอนเงินก็ได้

สรุป:
คุณสามารถฟ้องชายที่หลอกให้โอนเงินในฐานะจำเลยได้ โดยต้องรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด ถ้าข้อความถูกลบแล้ว ยังสามารถกู้คืนหรือหาพยานอื่นประกอบได้ หากมีพฤติกรรมฉ้อโกง ให้แจ้งความทางอาญาด้วย เพื่อให้กระบวนการสอบสวนช่วยรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากหลักฐานเพียงพอ ศาลอาจพิพากษาให้จำเลยคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยได้

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097

 

 

05. ถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนเปิดร้านขายกาแฟออนไลน์

หัวข้อ: ถูกหลอกลงทุนร้านค้าออนไลน์ขายกาแฟ

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม (จากจังหวัดสตูล อำเภอละงู วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.17 น.)
หนูถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนเปิดร้านค้าออนไลน์ขายกาแฟ โดยเริ่มจากการลงทุนหลักพันบาท มีกำไรแสดงในระบบ หนูจึงลงทุนเพิ่มเป็นหลักหมื่น เมื่อขอถอนเงิน มิจฉาชีพกลับบอกว่าต้องลงทุนเพิ่มอีกจึงจะถอนเงินได้ หนูถึงรู้ว่าถูกหลอก ตอนนี้ไปแจ้งความแล้วค่ะ หนูจะได้เงินคืนได้อย่างไร และต้องแจ้งความดำเนินคดีกับใครบ้างคะ?

คำตอบ
คุณได้ดำเนินการถูกต้องแล้วที่ไปแจ้งความ โดยทั่วไปกรณีนี้เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และอาจเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ หากมีการใช้ช่องทางออนไลน์ในการหลอกลวง

สิ่งที่ควรดำเนินการเพิ่มเติม

เก็บหลักฐานทั้งหมด เช่น ข้อความแชต ภาพหน้าจอเว็บไซต์หรือแอปที่ใช้ลงทุน หลักฐานการโอนเงิน และหมายเลขบัญชีปลายทาง

แจ้งความให้ระบุชื่อบุคคลหรือบัญชีที่เกี่ยวข้อง ให้มากที่สุดเท่าที่มีข้อมูล เช่น บัญชีที่รับโอนเงิน เบอร์โทรศัพท์หรือ Line ID ที่ติดต่อ และชื่อเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอให้ตำรวจดำเนินคดีอาญา และเสนอให้พนักงานสอบสวนพิจารณาใช้ มาตรการยึดอายัดบัญชี หรือประสาน ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) เพื่อสืบหาเครือข่าย

โอกาสในการได้เงินคืน ขึ้นอยู่กับว่าตำรวจสามารถติดตามผู้กระทำผิดและยึดทรัพย์คืนได้หรือไม่ หากทรัพย์สินยังไม่ถูกโอนหรือถ่ายเทออกนอกระบบธนาคาร โอกาสได้เงินคืนมีมากขึ้น

สามารถฟ้องแพ่ง เพื่อเรียกเงินคืนควบคู่กับการดำเนินคดีอาญาได้ หากรู้ตัวผู้กระทำผิดชัดเจน

สรุป
หากคุณได้แจ้งความแล้ว ควรรีบรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน และขอให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าคดีเป็นระยะ หากทรัพย์ถูกยึดได้ คุณจะสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายขอคืนเงินของตนเอง

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097
หากต้องการให้ทนายช่วยติดตามคดีหรือฟ้องแพ่งเพื่อเรียกเงินคืน ยินดีให้คำปรึกษาครับ

 

 

06. ยึดเบี้ยบำนาญได้หรือไม่

หัวข้อ: ถูกฟ้องคดีหนี้ธนาคาร มีผู้ค้ำประกัน และการยึดเบี้ยบำนาญ

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม (จากจังหวัดนครสวรรค์ อำเภอเมือง วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.21 น.)
พี่ทนายครับ ผมถูกธนาคารกรุงไทยฟ้องคดีหนี้กู้ยืม เป็นหนี้ประมาณ 1.9 ล้านบาท และมีผู้ค้ำประกันร่วมด้วย ผมได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับธนาคารโดยจะชำระหนี้เดือนละ 20,000 บาท แต่ผมผิดนัดมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ผมจะถูกฟ้องล้มละลายหรือไม่ครับ และหากผมจะเกษียณราชการในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยจะได้รับเบี้ยบำนาญเดือนละประมาณ 30,000 บาท เงินเบี้ยบำนาญนี้จะถูกยึดหรืออายัดได้หรือไม่ครับ?

คำตอบ
1. การฟ้องล้มละลาย
ในกรณีที่เจ้าหนี้มีมูลหนี้เกินกว่า 2 ล้านบาท และลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้สามารถยื่นคำร้องขอฟ้องล้มละลายได้ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีที่เจ้าหนี้จะเลือกใช้ช่องทางนี้ เพราะกระบวนการล้มละลายต้องใช้ค่าใช้จ่ายและเวลามาก และต้องมีหลักฐานว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินให้พิทักษ์ทรัพย์

อย่างไรก็ตาม หากธนาคารทราบว่าคุณจะได้รับบำนาญในอนาคต หรือมีทรัพย์สินอื่น ก็อาจใช้เป็นเหตุผลในการยื่นฟ้องล้มละลายได้

2. เบี้ยบำนาญราชการถูกยึดหรืออายัดได้หรือไม่?
ตามกฎหมาย เงินเบี้ยบำนาญของข้าราชการถือเป็นทรัพย์สินที่ได้รับการคุ้มครอง
ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 461 (6) และ พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494
ห้ามมิให้อายัดหรือยึดเบี้ยบำนาญได้ ยกเว้นบางกรณี เช่น

หนี้จากคดีอาญาที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้ชดใช้

หนี้ค่าเลี้ยงดูบุตรหรือค่าอุปการะเลี้ยงดูตามคำพิพากษา

ดังนั้น หนี้กู้ยืมจากธนาคาร ไม่สามารถอายัดเบี้ยบำนาญของคุณได้ แต่หากคุณมีทรัพย์สินอื่น เช่น บัญชีเงินฝาก บ้าน รถยนต์ หรือเงินอื่นที่ได้จากการขายทรัพย์ อาจถูกยึดได้ตามกระบวนการบังคับคดี

3. ควรทำอย่างไรต่อไป?

คุณควรตรวจสอบว่ามีคำพิพากษาหรือยัง และอยู่ในขั้นตอนบังคับคดีหรือไม่

หากธนาคารยังไม่ฟ้องล้มละลาย แนะนำให้เจรจาประนอมหนี้ใหม่อีกครั้ง

หากมีผู้ค้ำประกัน อาจต้องเจรจาร่วมกันเพื่อไม่ให้ผู้ค้ำได้รับผลกระทบมากเกินไป

สรุป
คุณอาจถูกฟ้องล้มละลายได้ หากธนาคารเห็นว่าคุณมีทรัพย์สินที่สามารถพิทักษ์ได้ตามกฎหมาย แต่ เบี้ยบำนาญราชการของคุณไม่สามารถถูกยึดหรืออายัดได้ตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ควรหาทนายเพื่อตรวจสอบสถานะคดีและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097
หากต้องการทนายช่วยตรวจสอบสถานะคดีหรือเจรจากับธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการฟ้องล้มละลาย ยินดีให้คำปรึกษาครับ

 

 

07. ผู้โดยสารรถ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เรียกค่าเสียหายอะไรได้บ้าง

หัวข้อ: เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนกรณีลูกชายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม:
พี่แตดครับ ลูกชายผมเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของคนขับทั้งสองฝ่าย โดยรถที่ลูกชายโดยสารเป็นรถของนายจ้างเพื่อเดินทางไปงานแสดง ซึ่งรถคันนั้นไม่มี พ.ร.บ. คุ้มครอง ส่วนคู่กรณีมีทั้ง พ.ร.บ. และประกันภัย ผมในฐานะพ่อของผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสาร มีสิทธิเรียกร้องจากใครบ้างครับ

คำตอบ:
คุณในฐานะ ทายาทโดยธรรมของผู้เสียชีวิต และ ผู้เสียหายโดยชอบธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีสิทธิเกิดขึ้นหลายทาง ดังนี้ครับ:

เรียกร้องจากผู้ขับขี่รถทั้งสองฝ่าย
หากพบว่าทั้งสองฝ่ายมีส่วนร่วมในการขับขี่โดยประมาท คุณสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจาก ผู้ขับขี่ทั้งสองคน ได้โดยตรงตามมาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ในฐานะทำละเมิด

เรียกร้องจากนายจ้างของรถที่ลูกชายโดยสาร
ในกรณีที่ลูกชายเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติงาน และการเดินทางนั้นอยู่ในขอบเขตของงานแสดง นายจ้างมีหน้าที่ดูแลและรับผิดตามกฎหมายแรงงาน (มาตรา 152-153) รวมถึงอาจมีหน้าที่ชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มเติมในฐานะ นายจ้างผู้รับผิดแทนลูกจ้างตามมาตรา 425

เรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของรถคู่กรณี
รถคู่กรณีมีทั้ง พ.ร.บ. และประกันภัยภาคสมัครใจ คุณสามารถ:

เรียกร้องค่าปลงศพและค่าสินไหมเบื้องต้นจาก พ.ร.บ. ได้เลยแม้ไม่มีการพิสูจน์ความผิด

หากพิสูจน์ได้ว่า รถคู่กรณีมีความผิด หรือมีส่วนร่วม คุณสามารถเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม จากประกันภัยภาคสมัครใจได้ (หากกรมธรรม์ครอบคลุมถึงผู้โดยสารบุคคลภายนอก)

กรณีรถที่โดยสารไม่มี พ.ร.บ.
หากเจ้าของรถ (นายจ้าง) ไม่จัดให้มี พ.ร.บ. ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย คุณอาจดำเนินคดีอาญากับเจ้าของรถได้ และใช้เป็นข้อเรียกร้องเพิ่มความเสียหายในคดีแพ่ง

สรุป:
คุณสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้จาก:

ผู้ขับขี่รถทั้งสองฝ่าย

นายจ้างเจ้าของรถที่ไม่มี พ.ร.บ.

บริษัทประกันภัยของคู่กรณี

รวมถึงขอเบิกค่าปลงศพและชดเชยเบื้องต้นจาก พ.ร.บ. ของรถคู่กรณี

ขอแนะนำให้ติดต่อทนายความเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นฟ้องเรียกร้องสิทธิอย่างเหมาะสมครับ

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097

 

 

08. ลูกเนรคุณ เรียกที่ดินคืนได้หรือไม่

หัวข้อ: ขอเพิกถอนนิติกรรมให้ที่ดินเพราะผู้รับไม่เลี้ยงดู

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม:
พี่ทนายคะ ตากับยายหนูโอนที่ดินให้กับลูกหลานไปแล้ว แต่คนที่ได้รับที่ดินกลับไม่เลี้ยงดู ไม่ส่งเสีย ไม่ดูแล ตากับยายอยากเพิกถอนการให้ที่ดิน หนูควรดำเนินการอย่างไรคะ

คำตอบ:
ในกรณีนี้สามารถดำเนินการ ฟ้องขอเพิกถอนการให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 ซึ่งบัญญัติว่า...

“ถ้าผู้รับให้ประพฤติตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ให้โดยการดูหมิ่น ดูแคลน ประพฤติไม่เลี้ยงดูตามฐานานุรูป หรือไม่ทำหน้าที่ตามสัญญาที่ตกลงไว้ ผู้ให้มีสิทธิฟ้องขอเพิกถอนนิติกรรมการให้ได้”

แนวทางดำเนินการ:

ตรวจสอบหลักฐานการให้ที่ดิน
เช่น โฉนดที่ดิน, หนังสือสัญญาการให้, หลักฐานการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน

รวบรวมพยานหลักฐาน
เพื่อพิสูจน์ว่า ผู้รับที่ดินไม่เลี้ยงดู ไม่ดูแล เช่น

คำให้การของญาติหรือเพื่อนบ้าน

หลักฐานทางการแพทย์ของตากับยาย

บันทึกข้อความหรือเหตุการณ์ที่แสดงถึงการทอดทิ้ง

ยื่นฟ้องศาล
ให้ตากับยายเป็นโจทก์ฟ้องต่อศาล ขอให้ เพิกถอนนิติกรรมการให้ และให้โฉนดที่ดินกลับคืนเป็นของตากับยาย

ข้อควรระวัง:

การฟ้องเพิกถอนต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันที่รู้เหตุเพิกถอน

และต้องไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันที่ให้ที่ดินไป

สรุป:
ตากับยายสามารถยื่นฟ้องศาลเพื่อเพิกถอนนิติกรรมให้ที่ดินได้ หากพิสูจน์ได้ว่าผู้รับที่ดินไม่เลี้ยงดู ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ควรรีบดำเนินการก่อนพ้นอายุความ และปรึกษาทนายความเพื่อร่างคำฟ้องและดำเนินคดีให้ถูกต้องครับ

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097

 

 

09. ทรัพย์มรดก แบ่งไม่ได้ ตกลงกันไม่ได้ ขายทอดตลาดครับ

หัวข้อ: ผู้จัดการมรดกไม่ยอมแบ่งทรัพย์สิน ขอศาลให้ขายทอดตลาดได้หรือไม่

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม:
จังหวัดแพร่ วันที่ 3 พฤษภาคม 2568 เวลา 03.15 น.
ศาลแต่งตั้งหนูและผู้จัดการมรดกร่วมกันรวม 4 คน แต่ผ่านไปกว่าหนึ่งปี ผู้จัดการมรดกร่วมอีก 3 คนไม่ยอมดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการแบ่งทรัพย์มรดก หนูอยากให้แบ่งที่ดิน แต่หากแบ่งไม่ได้ อยากขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดแทน จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง?

คำตอบ:
ในกรณีนี้ แม้จะมีผู้จัดการมรดกร่วมหลายคน แต่หากคนอื่นไม่ร่วมมือ หนึ่งในผู้จัดการมรดกสามารถใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อขอความช่วยเหลือจากศาลได้ โดยมีแนวทางดำเนินการดังนี้:

ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอแบ่งมรดกหรือขอขายทอดตลาด

คุณสามารถยื่นคำร้องขอต่อศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดก โดยขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จำหน่ายทรัพย์มรดก เช่น ที่ดิน ด้วยวิธีขายทอดตลาด และขอให้แบ่งเงินที่ได้ตามส่วนของทายาท

แนบพฤติการณ์ของผู้จัดการมรดกร่วม

อธิบายให้ชัดเจนว่าอีก 3 คนไม่ดำเนินการอะไรและเพิกเฉย ซึ่งทำให้การจัดการมรดกล่าช้าและไม่เป็นผล

อ้างเหตุผลว่าไม่สามารถแบ่งแยกทรัพย์สินได้โดยสะดวก

เช่น ที่ดินไม่สามารถแบ่งแยกทางกายภาพได้ หรือจะก่อให้เกิดความเสียหายหากแบ่งแยก จึงจำเป็นต้องขายทอดตลาดและแบ่งเงินแทน

แนบพยานหลักฐานประกอบ

เช่น สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดก เอกสารที่ดิน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนมรดก หนังสือแจ้งขอแบ่งที่ดินที่ส่งไปยังผู้จัดการร่วม ฯลฯ

หากศาลพิจารณาเห็นว่าเหตุผลฟังขึ้น และการจัดการตามที่ร้องจะเป็นประโยชน์แก่การจัดการมรดก ศาลมีอำนาจอนุญาตให้ขายทอดตลาดและจัดแบ่งเงินตามสิทธิ์ของทายาทแต่ละคนได้

ติดต่อทนายภูวงษ์ 081-803-4097
หากต้องการให้ทนายดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเร่งการแบ่งมรดกและขอขายทอดตลาด สามารถโทรปรึกษาได้ทุกเวลา ทนายในพื้นที่จังหวัดแพร่พร้อมให้บริการครับ

คุณต้องการให้ช่วยร่างคำร้องขอต่อศาลในกรณีนี้ด้วยไหมครับ?

 

 

10. คืนรถไฟแนนซ์ไม่ติดค้างค่าเช่าซื้อ ไม่ต้องรับผิดชอบสวนต่าง

หัวข้อ: การคืนรถยนต์ให้ไฟแนนซ์โดยไม่มีหนี้ค้างชำระ

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมาย กับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

คำถาม:
จังหวัดสมุทรสาคร อำเภอกระทุ่มแบน
วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เวลา 9:59 น.
พี่ทนายครับ ผมต้องการคืนรถให้กับไฟแนนซ์ ผมไม่เคยค้างค่างวดเลย ผมต้องดำเนินการอย่างไรครับ? ผมอยากให้ทนายไปส่งมอบรถให้กับไฟแนนซ์ด้วย และผมต้องรับผิดชอบส่วนต่างหรือค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมไหมครับ?

คำตอบ:
ในกรณีที่คุณต้องการคืนรถยนต์ให้บริษัทไฟแนนซ์โดยสมัครใจ และไม่ได้มีค้างชำระค่างวดใด ๆ ขั้นตอนและข้อควรระวังมีดังนี้:

ตรวจสอบสัญญาเช่าซื้อ (Hire Purchase):
ดูว่ามีเงื่อนไขเกี่ยวกับการคืนรถก่อนครบสัญญาหรือไม่ บางกรณีอาจเรียกเก็บ “ค่าสิ้นสุดสัญญา” หรือ “ค่าดำเนินการ” เพิ่มเติม

ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญาและขอคืนรถ:
ควรมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุเหตุผลการคืนรถ และขอให้ไฟแนนซ์ออกหนังสือยืนยันการสิ้นสุดภาระผูกพัน

การส่งมอบรถ:
ควรให้ทนายความหรือตัวแทนเป็นพยานในการส่งมอบ และจัดทำ “บันทึกส่งมอบรถ” พร้อมถ่ายภาพและลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่าย

ความรับผิดชอบในส่วนต่าง:
หากคุณไม่ค้างค่างวด และรถยังอยู่ในสภาพดี ไม่มีความเสียหาย บริษัทไฟแนนซ์ อาจไม่เรียกเก็บส่วนต่าง แต่เพื่อความมั่นใจ ควรขอเอกสารยืนยันจากบริษัทว่า การคืนรถครั้งนี้สิ้นสุดภาระหนี้สินทั้งหมดแล้ว

ทนายความไปด้วยได้หรือไม่:
เครือข่ายทนายความของเรามีบริการจัดทนายความไปส่งมอบรถให้กับไฟแนนซ์พร้อมเป็นพยาน และช่วยร่างเอกสารให้ครบถ้วนตามกฎหมาย

สรุป:
คุณสามารถคืนรถได้หากไม่มีค้างชำระ โดยควรมีเอกสารยืนยันการสิ้นสุดภาระ และควรให้ทนายความไปส่งมอบรถเพื่อความปลอดภัยและเป็นหลักฐาน หากต้องการใช้บริการทนายในเครือข่ายสามารถติดต่อได้ทันที

ติดต่อทนายภูวงษ์ 081-803-4097

 

 

11. ฟ้องกู้ยืมเงินต้องทำอย่างไร

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์
จังหวัดนราธิวาส
วันที่: 20 เมษายน 2568
เวลา: 10.20 น.

คำถาม
ทนายคะ หนูต้องการฟ้องคดีกู้ยืม มีผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ทำสัญญากู้ยืมแล้ว และมีหลักฐานการโอนเงินกู้เข้าบัญชีของผู้กู้ หนูต้องดำเนินการอย่างไรคะ?

คำตอบ
ในกรณีของคุณ การฟ้องคดีกู้ยืมเงินที่มีสัญญาและหลักฐานการโอนเงิน มีแนวทางดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน
สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน (ต้องลงลายมือชื่อผู้กู้และผู้ค้ำประกัน)

หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน หรือรายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement)

สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ให้กู้ (เจ้าหนี้)

หลักฐานการทวงถามหนี้ (ถ้ามี เช่น จดหมายทวง หรือข้อความแชต)

2. ยื่นฟ้องต่อศาล
ยื่นคำฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ เช่น ศาลจังหวัดหรือศาลแขวง ในพื้นที่ที่จำเลยมีภูมิลำเนา

สามารถว่าจ้าง ทนายความ ยื่นฟ้องให้ หรือ ไปฟ้องเองได้ หากยอดหนี้ไม่สูงเกิน 300,000 บาท (ในเขตศาลแขวง)

3. เตรียมชำระค่าธรรมเนียมศาล
ค่าธรรมเนียมศาลจะคิดตามยอดเงินที่ฟ้อง โดยปกติอยู่ที่ประมาณ 2% ของยอดเงินที่ฟ้อง (แต่ไม่เกิน 200,000 บาท)

4. รอศาลออกหมายเรียกและนัดพิจารณาคดี
ศาลจะเรียกคู่กรณีมาสืบพยาน หากจำเลยไม่มาตามนัด อาจพิพากษาโดยฝ่ายเดียว (จำเลยแพ้คดี)

5. เมื่อชนะคดี
หากศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแล้วไม่จ่าย คุณสามารถ บังคับคดี เช่น ยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนได้ โดยผ่าน เจ้าพนักงานบังคับคดี

สรุป
คุณมีสิทธิฟ้องคดีตามกฎหมาย เพราะมีทั้งสัญญาและหลักฐานการโอนเงิน ควรเริ่มจากการปรึกษาทนายเพื่อตรวจสอบเอกสาร และดำเนินการฟ้องต่อศาลตามขั้นตอนข้างต้น

หากต้องการให้ทีมทนายช่วยดำเนินการให้ครบทุกขั้นตอน สามารถติดต่อ ทนายภูวงษ์ ได้ที่ โทร. 081-803-4097

 

 

12. ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ เพราะมีหมายจับ

จังหวัดหนองบัวลำภู
วันที่ 21 เมษายน 2568
เวลา 08:15 น.

คำถาม
ขณะนี้หนูกำลังจะเดินทางไปเที่ยวกับลูกที่ประเทศเวียดนาม และลูกทั้งสองคนได้โหลดกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนหนู เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แจ้งว่ามีใบจากศาลหนองบัวลำภูในคดีฟ้องขับไล่ หนูควรจะต้องทำยังไงถึงจะได้เดินทางไปกับลูกในเที่ยวบินวันนี้?

คำตอบ
หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แจ้งว่ามีหนังสือจากศาลซึ่งอาจเป็นคำสั่งห้ามออกนอกประเทศ ผู้ถูกฟ้องต้องดำเนินการดังนี้:

สอบถามเจ้าหน้าที่ ตม. ว่ามีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศหรือไม่ และขอถ่ายภาพเอกสารดังกล่าวไว้

ติดต่อศาลจังหวัดหนองบัวลำภูทันที เพื่อสอบถามว่า
• ศาลมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศจริงหรือไม่
• หากไม่มีคำสั่งดังกล่าว ให้ศาลออกหนังสือรับรองว่าไม่มีคำสั่งห้ามเดินทาง

หากมีคำสั่งห้ามออกนอกประเทศจริง ต้องรีบให้ทนายหรือญาติ ยื่นคำร้องขออนุญาตศาลเพื่อเดินทางออกนอกประเทศในกรณีจำเป็นเร่งด่วน

แจ้งเจ้าหน้าที่ ตม. ว่าลูกได้โหลดกระเป๋าและกำลังดำเนินการขอเอกสารจากศาล ขอให้ช่วยผ่อนผันระยะสั้นเพื่อรอหนังสือยืนยัน

สรุป
• ขอทราบรายละเอียดคำสั่งห้ามออกนอกประเทศจาก ตม.
• ติดต่อศาลจังหวัดหนองบัวลำภูทันที
• ขอหนังสือรับรองหากไม่มีคำสั่งห้าม
• หากมีคำสั่งห้าม ต้องยื่นคำร้องขออนุญาต
• ขอความเมตตาเจ้าหน้าที่ ตม. ให้รอเอกสาร

ติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่
ทนายความภูวงษ์ โพธิ์ไทร
ประธานเครือข่ายทนายความ
โทรศัพท์: 081-803-4097

 

 

13. เลิกจ้างเพราะเหตุชู้สาว

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันที่ 21 เมษายน 2568
เวลา 10:00 น.

คำถาม
พี่ทนายครับ ผมเป็นนายจ้าง ถูกลูกจ้างฟ้องศาลแรงงาน เขาแจ้งว่าให้ไปขึ้นศาลอยุธยาครับ เรื่องคือผมให้ออกเพราะเหตุชู้สาว ไม่มีสัญญาจ้าง ไม่มีเงื่อนไขการเลิกจ้างในเรื่องนี้ ผมต้องทำอย่างไรครับ ศาลนัดพรุ่งนี้ครับ

คำตอบ
กรณีนี้ถือว่าเป็นคดีแรงงาน ซึ่งศาลจะพิจารณาว่าการเลิกจ้างมีเหตุอันสมควรตามกฎหมายหรือไม่ ถึงแม้จะไม่มีสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ศาลจะดูที่ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของการทำงานระหว่างนายจ้าง-ลูกจ้างเป็นหลัก

สิ่งที่พี่ควรทำก่อนขึ้นศาลพรุ่งนี้คือ:

เตรียมข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน

พิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอในการเลิกจ้างหรือไม่ เช่น พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของลูกจ้างส่งผลกระทบต่อองค์กร

หากเป็นเหตุเรื่องชู้สาว จำเป็นต้องมีหลักฐาน เช่น พยาน บุคคล หรือข้อความในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่แสดงว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว

รวบรวมพยานหลักฐาน

หลักฐานการจ้างงาน เช่น การโอนเงินเดือน สลิปเงินเดือน หรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับการตกลงจ้าง

พยานที่อยู่ในเหตุการณ์หรือทราบพฤติกรรมของลูกจ้าง

เตรียมแถลงต่อศาล

พรุ่งนี้ให้ไปศาลตามเวลานัด และแถลงข้อเท็จจริงว่าเหตุใดจึงเลิกจ้าง

หากยังไม่มีทนาย พี่สามารถแถลงเองในศาลได้ แต่หากเป็นคดีที่ลูกจ้างเรียกค่าเสียหายสูง แนะนำให้หาทนายช่วยจัดทำคำให้การและวางแนวทางต่อสู้

หากยังไม่มีทนายความ

พี่สามารถติดต่อ เครือข่ายทนายความประเทศไทย เพื่อหาทนายในจังหวัดอยุธยาได้ทันที

มีปัญหาปรึกษา
ทนายภูวงษ์ โทร. 081 803 4097
ประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย
มีสมาชิกทนายความในเครือข่าย ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อยได้ที่เว็บไซต์
www.ทนายภูวงษ์.com

สรุปสั้น:
ไปศาลตามนัด แถลงข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน เตรียมพยานหลักฐานให้พร้อม และหากยังไม่มีทนายควรติดต่อขอคำปรึกษาเร่งด่วนวันนี้เลยครับ

 

 

14. มีหมายจับ มอบตัวหรือหนีดีครับทนาย

จังหวัดระยอง – อำเภอแกลง
วันที่ 21 เมษายน 2568
เวลา 12:50 น.

คำถาม
พี่ทนายคะ แฟนหนูถูกตรวจฉี่ที่ทำงาน จากนั้นตำรวจก็นำตัวไปโรงพัก ปัจจุบันแฟนหนูอยู่ไหน ไม่ทราบ หนูอยากไปเยี่ยมและประกันตัว จะต้องดำเนินการอย่างไร เงินประกันต้องใช้เท่าไหร่คะ

คำตอบ

ในกรณีนี้ นิติขอแนะนำขั้นตอนตามนี้ครับ:

1. ตรวจสอบสถานที่ควบคุมตัว
โทรสอบถามที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอแกลง

เบอร์โทรศัพท์: 038-671-109 หรือ 191

แจ้ง ชื่อ-นามสกุลของแฟน และ วันเวลาที่ถูกนำตัวไป

ถามว่าอยู่ในห้องควบคุมตัวที่ สภ. แกลง หรือส่งไปฝากขังที่ ศาล หรือ เรือนจำ แล้ว

2. ไปเยี่ยมที่ สภ.แกลง
หากยังอยู่ที่สถานีตำรวจ สามารถเข้าเยี่ยมได้ตามเวลาเยี่ยมผู้ต้องหา (โดยมากคือช่วงเช้า 9:00–11:00 หรือบ่าย 13:00–15:00 น.)

นำ บัตรประชาชน ไปแสดงตน

ถามข้อมูลจากพนักงานสอบสวนว่าแฟนถูกแจ้งข้อหาอะไร เช่น เสพสารเสพติด

3. การประกันตัว
หากยังอยู่ในชั้นสอบสวน สามารถยื่นขอ ประกันตัวที่พนักงานสอบสวน

เอกสารที่ต้องเตรียม:

สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอประกัน

สำเนาทะเบียนบ้าน

เอกสารการเงินหรือหลักทรัพย์ เช่น เงินสดหรือโฉนด

วงเงินประกัน ขึ้นอยู่กับข้อหา:

กรณี เสพยาเสพติด มักใช้เงินประกัน 10,000 – 30,000 บาท (หรืออาจได้ปล่อยตัวโดยไม่ต้องใช้เงิน หากตำรวจใช้ดุลพินิจ)

4. กรณีส่งศาล
หากพนักงานสอบสวน ส่งตัวไปฝากขังศาลจังหวัดระยอง ต้องยื่นขอประกันที่ศาล

ติดต่อที่ศาลโดยเร็วในเช้าวันถัดไป

หากมีทนายความร่วมยื่นคำร้องด้วย จะช่วยให้การขอประกันมีน้ำหนักมากขึ้น

สรุป

โทรถามที่ สภ.แกลง ว่าแฟนอยู่ที่ไหน

ไปเยี่ยมและพูดคุยกับพนักงานสอบสวน

เตรียมเอกสารประกันตัวตามคำแนะนำ

ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ทนายภูวงษ์ โทร. 081 803 4097
เว็บไซต์: www.ทนายภูวงษ์.com
เครือข่ายทนายความประเทศไทย พร้อมช่วยเหลือทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดระยอง

 

 

15. ฉี่สีม่วง ทำไงต่อครับ

หัวข้อ: แฟนถูกตรวจปัสสาวะในที่ทำงานแล้วถูกควบคุมตัว – จะตามหาและประกันตัวได้อย่างไร

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์
โทร. 081 803 4097
จังหวัดระยอง (อำเภอแกลง)
วันที่: 21 เมษายน 2568
เวลา: 12.50 น.

---

คำถาม
พี่ทนายคะ แฟนหนูถูก **ตรวจฉี่ในที่ทำงาน** แล้วพบสารเสพติด
จากนั้นตำรวจได้นำตัวไปที่โรงพัก แต่จนถึงตอนนี้ **ไม่รู้ว่าแฟนหนูถูกควบคุมตัวไว้ที่ไหน**
หนูอยากไป **เยี่ยมและประกันตัว** ต้องดำเนินการอย่างไร?
และ **เงินประกันต้องใช้ประมาณเท่าไหร่คะ?**

---

คำตอบ

**รีบสอบถามที่สถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุทันที**
กรณีนี้ควรติดต่อไปที่ **สถานีตำรวจภูธรแกลง (สภ.แกลง)**
โทรสอบถามว่า **มีการควบคุมตัวบุคคลตามชื่อ-นามสกุลของแฟนคุณหรือไม่**
เตรียมข้อมูลแฟนให้พร้อม เช่น ชื่อจริง, ชื่อเล่น, ที่ทำงาน, เวลาเกิดเหตุ

---

**ขอเข้าเยี่ยมและสอบถามสิทธิในการประกันตัว**
หากตำรวจยังคุมตัวไว้ที่ สภ.แกลง คุณสามารถ

* ขอเข้าเยี่ยม
* ขอทราบข้อกล่าวหา
* ขอใช้สิทธิยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
หากแฟนคุณถูกส่งต่อไปฝากขังที่ศาลแล้ว ต้องไปติดต่อ **ศาลจังหวัดระยอง**

---

**เรื่องเงินประกัน**
กรณีตรวจพบสารเสพติดจากปัสสาวะ แต่ **ไม่มีของกลาง / ไม่ใช่ผู้ค้า**
ศาลมักให้ประกัน โดยวงเงินที่พบบ่อย:

* **5,000 – 50,000 บาท** แล้วแต่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนหรือศาล
หากไม่มีเงินสด อาจใช้ **บุคคลรับรอง / หลักทรัพย์ประกันแทน**

---

**ขอใบรับรองจากโรงพักหรือศาล เพื่อใช้ในการยื่นประกัน**
เตรียมเอกสารดังนี้:

* สำเนาบัตรประชาชน
* สำเนาทะเบียนบ้าน
* เงินสด / หลักทรัพย์ (แล้วแต่กรณี)
* หนังสือขอประกันตัว (สามารถให้ “นิติ” ช่วยร่างให้ได้ครับ)

---

**สรุป:**
ติดต่อ สภ.แกลง เพื่อสอบถามสถานที่ควบคุมตัว
ขอเข้าเยี่ยม และสอบถามเรื่องยื่นประกัน
เงินประกันโดยทั่วไป 5,000 – 50,000 บาท แล้วแต่ข้อกล่าวหา
เตรียมเอกสารให้พร้อม และควรรีบดำเนินการทันทีภายในวันเดียวกันถ้าเป็นไปได้

---

**มีปัญหาด่วน ปรึกษา**
**ทนายภูวงษ์** โทร. **081 803 4097**
**ประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย**
มีสมาชิกทนายความในเครือข่าย **ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดระยอง**

**ค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อยได้ที่เว็บไซต์**
**[www.ทนายภูวงษ์.com](http://www.ทนายภูวงษ์.com)**

---

หากคุณต้องการให้ “ทนายภูวงษ์” ช่วย **ร่างคำร้องขอประกันตัว**, **ตรวจสอบสถานที่ควบคุมตัว**, หรือ **จัดหาทนายไปดำเนินการแทน ณ สภ.แกลง** แจ้งได้เลยครับ พร้อมช่วยทันที

 

 

16. ต้องการทนายราชบุรี ฟ้องหย่ามีมั้ยคะ

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์
โทร. 081 803 4097

จังหวัดราชบุรี (อำเภอบ้านโป่ง)
วันที่: 22 เมษายน 2568
เวลา: 11.49 น.

คำถาม
คุณทนายคะ ดิฉันต้องการหย่าค่ะ แยกกันอยู่เกินกว่า 3 ปีแล้ว เดิมฝ่ายชายมาอยู่บ้านดิฉันค่ะ
เรามีลูกด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุเกิน 20 ปีบริบูรณ์แล้ว ส่วนทรัพย์สินมีรถยนต์ 1 คัน ตกลงยกให้ลูกค่ะ
ดิฉันต้องดำเนินการอย่างไรบ้างคะเกี่ยวกับเรื่องการหย่า?

คำตอบ
หากแยกกันอยู่นานเกิน 3 ปี และทั้งสองฝ่ายสมัครใจหย่า สามารถดำเนินการได้โดย:

ติดต่อที่ว่าการอำเภอ เพื่อทำ “บันทึกการหย่า” โดยไม่ต้องไปศาล หากทั้งสองฝ่ายยินยอม

แนบข้อตกลงเรื่องทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ 1 คัน ตกลงยกให้บุตร – สามารถระบุไว้ในข้อตกลงการหย่าได้

เนื่องจากบุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว (เกิน 20 ปี) จึง ไม่ต้องระบุเรื่องสิทธิเลี้ยงดูบุตร

หากฝ่ายชายไม่ยินยอมหย่า – สามารถฟ้องหย่าต่อศาลได้ โดยใช้เหตุ “แยกกันอยู่เกิน 3 ปี” ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4)

สรุป
หาก ยินยอมทั้งสองฝ่าย ไปอำเภอทำบันทึกการหย่าได้เลย
หาก ไม่ยินยอม ยื่นฟ้องศาลโดยใช้เหตุแยกกันอยู่นานกว่า 3 ปี
สามารถแนบข้อตกลงทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ยกให้บุตร ไว้ในบันทึกหย่าได้เช่นกัน

ศึกษาคำถามที่พบบ่อยด้านการหย่า สิทธิในบุตร และทรัพย์สินหลังหย่า
ได้ที่ www.ทนายภูวงษ์.com
รวมคำตอบจากประสบการณ์จริงทั่วประเทศ

ติดต่อทนายภูวงษ์
ประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย
โทร. 081 803 4097
เว็บไซต์: www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

17. สรรพสามิต เรียก รับ เงิน ร้านหนูแบ่งขายสุรา (ขวดกระทิงแดง)

หัวข้อ: สรรพสามิตบุกจับร้านโดยไม่มีหมายค้น – ถูกเรียกค่าปรับ 90,000 บาท ต้องทำอย่างไร

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์
โทร. 081 803 4097

จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเหล่าขวัญ)
วันที่: 22 เมษายน 2568
เวลา: 12.20 น.

คำถาม
พี่ทนายคะ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตบุกเข้าร้านหนูโดย ไม่มีหมายค้น
แจ้งข้อหาแบ่งขายสุราใส่ขวดกระทิงแดง และเรียกให้เสียค่าปรับ 90,000 บาท
หนูควรทำอย่างไรดีคะ

คำตอบ

เจ้าหน้าที่ไม่มีหมายค้น – มีสิทธิปฏิเสธการตรวจค้น
ตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเข้าค้นสถานที่เอกชน เช่น ร้านค้าหรือบ้านพัก
ต้องมี หมายค้นจากศาล เว้นแต่มีเหตุฉุกเฉินอย่างชัดเจน
หากไม่มีหมายค้น และเจ้าของร้านไม่ยินยอม การเข้าค้นอาจผิดกฎหมาย
ถือเป็นการ ละเมิดสิทธิ และอาจร้องเรียนหรือฟ้องกลับได้

ไม่ควรยอมจ่ายค่าปรับในที่เกิดเหตุ
ทนายภูวงษ์แนะนำว่า:

“ให้คุณไปชำระค่าปรับต่อหน้าศาลจะปลอดภัยและเป็นธรรมมากกว่า”
เพราะศาลจะพิจารณาว่า

จับกุมและดำเนินคดีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

คุณมีเจตนา กระทำผิดจริง หรือมีการข่มขู่บังคับ

อย่าลืมถ่ายภาพบุคคลและรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ไว้ด้วย
เพื่อป้องกันการแอบอ้าง หรือการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คุณควร

ขอถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจ พร้อมบัตรประจำตัว

ถ่ายรูป ทะเบียนรถยนต์หรือรถราชการ ที่ใช้ในการเข้าตรวจ
เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานกรณีมีการร้องเรียนภายหลัง

หากคุณเห็นว่าถูกปฏิบัติไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้
ช่องทางร้องเรียน:

ศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567

ป.ป.ช. หรือหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่

แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในพื้นที่

สรุป
ไม่มีหมายค้น – เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิเข้าค้นร้าน
อย่าจ่ายค่าปรับในที่เกิดเหตุ ให้ดำเนินการผ่านศาลเท่านั้น
ถ่ายรูปเจ้าหน้าที่และทะเบียนรถไว้ทุกครั้ง
หากถูกข่มขู่หรือเรียกรับผลประโยชน์ ให้รีบปรึกษาทนายและแจ้งความ

มีปัญหาปรึกษา
ทนายภูวงษ์ โทร. 081 803 4097
ประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย
เครือข่ายทนายครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดกาญจนบุรี

ค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อยได้ที่เว็บไซต์
www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

18. สั่งซื้อสินค้าออนไลน์กับ Shopee สินค้าหาย ใครรับผิดชอบ

หัวข้อ: สั่งของออนไลน์ Shopee แล้วไม่ได้รับสินค้า – ฟ้องใครได้บ้าง?
ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับ
ทนายภูวงษ์
จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์
วันที่ 22 เมษายน 2568
เวลา 14.45 น.


คำถาม
พี่ทนายครับ ผมอยู่สุราษฎร์ฯ ซื้อสินค้าออนไลน์จากแอป Shopee จ่ายเงินครบแล้ว แต่ สินค้าไม่มาถึง ไม่มีใครรับผิดชอบเลยครับ

Shopee ปฏิเสธ

ร้านค้าไม่รับผิด

บริษัทขนส่งก็ไม่รับผิด

แบบนี้ผมควรทำอย่างไรดีครับ?

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์

ในกรณีนี้ ผมจะเป็นผู้ดำเนินคดีแทนลูกความโดยตรงครับ โดยยื่นฟ้องต่อ ศาลแพ่ง แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ ซึ่งเป็นศาลเฉพาะทางสำหรับคดีซื้อขายสินค้า/บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (เช่น Shopee, Lazada) และสามารถดำเนินคดี ผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด โดยไม่ต้องเดินทางไปศาล

แนวทางดำเนินคดี

รวบรวมพยานหลักฐาน เช่น

ใบสั่งซื้อ, หลักฐานการชำระเงิน

ข้อความโต้ตอบกับร้านค้า Shopee และบริษัทขนส่ง

ภาพการติดตามสถานะพัสดุ

ยื่นฟ้องผ่านเว็บไซต์ศาลแพ่งออนไลน์
https://civilefiling.coj.go.th
ผมจะดำเนินการแทนลูกความทุกขั้นตอน

ศาลนัดพิจารณาคดีทางวิดีโอ (VDO Conference)

ไม่ต้องเดินทาง

การไกล่เกลี่ย สืบพยาน และคำพิพากษาทั้งหมดดำเนินการผ่านออนไลน์ได้ทันที

สรุป
หากท่านถูกละเมิดสิทธิจากการซื้อขายออนไลน์ ผม ทนายภูวงษ์ จะดำเนินการฟ้องร้องแทนท่านผ่าน ศาลแพ่ง แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ ซึ่งช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และให้ความเป็นธรรมตามสิทธิของผู้บริโภคอย่างเต็มที่ครับ

ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ติดต่อ ทนายภูวงษ์ โทร. 081 803 4097
ประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย
มีทนายเครือข่ายในสุราษฎร์ธานีพร้อมช่วยเหลือ

ศึกษาคำถามกฎหมายยอดนิยมได้ที่
www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

19. จัดการมรดกต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

หัวข้อ: การจัดการมรดกของบิดาในเขตอำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี
ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์

จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอสว่างวีระวงศ์
วันที่ 22 เมษายน 2568
เวลา 19:55 น.

คำถาม
พี่ทนายความอยู่อุบลมั้ยครับ ผมต้องการจัดการมรดกของพ่อครับ ผมอยู่อำเภอสว่างวีระวงศ์ครับ พี่มีทนายความที่จังหวัดอุบลราชธานีให้คำปรึกษาหรือจัดการเรื่องนี้ให้ผมมั้ยครับ?

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์

พี่มีทนายความในเครือข่ายจังหวัดอุบลราชธานี 3 ท่านครับ
ทนายความจะโทรหาคุณเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อนัดหมายพูดคุยและช่วยดำเนินการเรื่องมรดกให้ครบถ้วนทุกขั้นตอน

ในเบื้องต้น นิติขอแนะนำให้คุณเตรียมเอกสารเหล่านี้ไว้ก่อนครับ:

มรณบัตร และ ทะเบียนบ้าน ของผู้เสียชีวิต

บัตรประชาชน และ ทะเบียนบ้านของทายาททุกคน

ทะเบียนสมรส / ทะเบียนหย่า / พินัยกรรม (ถ้ามี)

เอกสารแสดงทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน สมุดบัญชี หุ้น ฯลฯ

เมื่อพร้อมแล้ว ทนายจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็น “ผู้จัดการมรดก” และดำเนินการแบ่งทรัพย์หรือโอนสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมายครับ

ช่องทางติดต่อด่วน:
ทักไลน์ส่วนตัวของทนายภูวงษ์
ไอดีไลน์: @lawyerpoovong

แนะนำเพิ่มเติม

เครือข่ายทนายความของเรามีทนายความทั่วประเทศ
พร้อมให้คำปรึกษาและบริการคุณอย่างมืออาชีพทุกจังหวัด

หากต้องการค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อย
สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์:
www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

20. เจ้าหนี้โพสต์ประจานควรทำอย่างไร

หัวข้อ: ถูกเจ้าหนี้โพสต์ประจาน พร้อมสำเนาบัตรประชาชน ควรทำอย่างไร
ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับ ทนายภูวงษ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมือง
วันที่ 22 เมษายน 2568
เวลา 16:30 น.
ช่องทางการติดต่อ: คอลเซ็นเตอร์ 089 226 8899

คำถาม
พี่ทนายคะ หนูถูกเจ้าหนี้โพสต์ประจาน โดยนำรูปและสำเนาบัตรประชาชนของหนูไปโพสต์ในที่สาธารณะ
หนูได้แจ้งความไว้แล้ว และพรุ่งนี้ตำรวจนัดไกล่เกลี่ย หนูอยากได้ทนายความไปด้วย 1 คน
ถ้าตกลงกันไม่ได้ หนูตั้งใจจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเลยค่ะ ช่วยหาทนายความให้หนูได้มั้ยคะ?

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์
คุณมีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เพราะการกระทำของเจ้าหนี้เข้าข่ายหลายความผิด ได้แก่:

ความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การเผยแพร่ภาพถ่ายและสำเนาบัตรประชาชนของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา

หากข้อความหรือภาพที่โพสต์ทำให้คุณเสียชื่อเสียงในที่สาธารณะ

การใช้หนี้โดยผิดวิธี

แม้จะเป็นเจ้าหนี้ ก็ไม่มีสิทธิใช้วิธีประจานลูกหนี้เพื่อบังคับให้ชำระหนี้

แนวทางปฏิบัติ
การไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้: คุณสามารถขอให้ทนายความของเครือข่ายทนายภูวงษ์ไปเป็นตัวแทนหรือร่วมในการไกล่เกลี่ย

กรณีไม่สามารถตกลงกันได้: คุณสามารถมอบอำนาจให้ทนายฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง ฐานละเมิดชื่อเสียงและละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้

สรุป
คุณทำถูกแล้วที่แจ้งความ และควรมีทนายร่วมในการเจรจาเพื่อคุ้มครองสิทธิของคุณ
ทางเครือข่ายทนายความเรามีทนายในพื้นที่ พร้อมให้บริการคุณทั้งในขั้นตอนไกล่เกลี่ยและดำเนินคดีหากจำเป็น

หากต้องการทนายความไปช่วยพรุ่งนี้
ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ 089 226 8899 ได้ทันที
หรือเข้าเว็บไซต์ www.ทนายภูวงษ์.com
เพื่อดูรายชื่อทนายใกล้คุณ

 

 

ฟ้องผี ต้องเตรียมเอกสารอะไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับ
ทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ
จังหวัดยโสธร
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568
เวลา 8.38 น.


คำถาม
จังหวัดยโสธร
ฟ้องผี ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ครับ?

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์
การ “ฟ้องผี” หรือ ยื่นคำร้องขอศาลตั้งผู้จัดการมรดกแทนเจ้ามรดกที่เสียชีวิตไปแล้ว (โดยที่ยังไม่มีใครจัดการมรดก) เป็นคำพูดติดปากทางกฎหมาย ซึ่งจำเป็นเมื่อต้องจัดการเรื่องต่าง ๆ เช่น โอนที่ดิน, ถอนเงินในบัญชีธนาคาร, หรือแบ่งทรัพย์มรดก โดยมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องเตรียมดังนี้:

เอกสารที่ต้องเตรียม
1. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน ของผู้ร้อง
2. สำเนามรณบัตร ของเจ้ามรดก (คนที่เสียชีวิต)
3. ทะเบียนบ้านของเจ้ามรดก ณ วันเสียชีวิต
4. ทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี)
5. สูติบัตร/ทะเบียนบ้านของทายาททุกคน
6. หลักฐานทรัพย์สิน เช่น
• โฉนดที่ดิน
• สมุดบัญชีธนาคาร
• เอกสารทะเบียนรถ
7. พินัยกรรม (ถ้ามี)
8. พยานบุคคลอย่างน้อย 2 คน ที่รู้จักเจ้ามรดกและสามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นทายาท

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
• ค่าธรรมเนียมศาล: ประมาณ 500 - 1,000 บาท
• ค่าทนายความ (ถ้ามีการจ้าง): แล้วแต่ตกลง เริ่มต้นประมาณ 5,000 - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและทรัพย์มรดก
• ค่าหนังสือรับรอง / ค่าเอกสารจากเขต/อำเภอ: 20 - 100 บาทต่อฉบับ

สรุป
การฟ้องผี หรือยื่นคำร้องขอศาลตั้งผู้จัดการมรดก จำเป็นต้องมีเอกสารพิสูจน์ความเป็นทายาทและทรัพย์สินที่ต้องจัดการ โดยมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนักในส่วนของศาล แต่ควรมีทนายความช่วยดูแลเอกสารและกระบวนการเพื่อไม่ให้คดีมีปัญหา

หากต้องการทนายความในพื้นที่จังหวัดยโสธรดูแลเรื่องนี้ สามารถติดต่อเครือข่ายทนายความของเราได้ครับ

ติดต่อทนายภูวงษ์ 081-803-4097
เครือข่ายทนายความเรามีทนายทั่วประเทศ พร้อมดูแลทุกขั้นตอน
ดูคำถามกฎหมายอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

21. สู้คดีฉ้อโกง ร่วมกันปล่อยเงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ

จังหวัดตรัง
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 9.41 น.

คำถาม
พี่ทนายคะ หนูถูกฟ้องคดีฉ้อโกง เรื่องคือมีคนเอาเงินมาให้หนูปล่อยกู้นอกระบบ โดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตอนนี้ถูกฟ้องคดี หนูต้องการทนายความไปช่วยสู้คดีในศาลค่ะ

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์
กรณีนี้เป็นประเด็นทางกฎหมายที่ต้องแยกข้อเท็จจริงและเจตนาให้ชัดเจน โดยมีแนวทางดังนี้
1. หากข้อเท็จจริงเป็นการที่ผู้เสียหายสมัครใจนำเงินมาให้คุณปล่อยกู้ต่อ โดยรู้ว่ามีการเรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมาย อาจถือว่าเป็นการร่วมกระทำความผิด ไม่ใช่การถูกฉ้อโกง
2. คดีฉ้อโกงต้องมีองค์ประกอบเรื่องการหลอกลวงโดยเจตนาให้บุคคลเสียทรัพย์ หากคุณสามารถแสดงได้ว่าไม่ได้หลอกให้เขาเสียเงิน และเขารู้ล่วงหน้าและยินยอม ก็สามารถต่อสู้คดีได้
3. ขอให้คุณเตรียมพยานหลักฐาน เช่น ข้อความแชท รายการโอนเงิน พยานบุคคล หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทนายวิเคราะห์และยื่นคำให้การอย่างถูกต้อง
4. ในส่วนของดอกเบี้ยเกินอัตรา หากปรากฏว่ามีการปล่อยเงินกู้ในลักษณะดังกล่าวจริง อาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้และดอกเบี้ยเกินกำหนด ต้องพิจารณาทั้งหมดเพื่อวางแนวทางสู้คดีให้รอบคอบ

สรุป
คดีนี้สามารถต่อสู้ได้หากคุณไม่ได้หลอกลวงและมีหลักฐานชัดเจนว่าอีกฝ่ายรู้เห็นและยินยอมกับข้อตกลงตั้งแต่ต้น ขอแนะนำให้มีทนายความช่วยตั้งแต่ชั้นต้นเพื่อยื่นคำให้การต่อศาลและต่อสู้คดีตามสิทธิที่คุณมี

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097
เครือข่ายทนายความของเรามีทนายความทั่วประเทศที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการคุณ
หากต้องการค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อย เข้าดูได้ที่เว็บไซต์ www.ทนายภูวงษ์.com


 

22. ยืมเงินพระแล้วไม่คืน

ถาม-ตอบ ปัญหากฎหมายกับ

ทนายภูวงษ์ ประธานเครือข่ายทนายความ
จังหวัดนครสวรรค์
วันที่ 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 9.30 น.

คำถาม
โยมทนาย มีคนมาขอกู้ยืมเงินอาตมาหลายครั้ง เป็นเงินทั้งหมดประมาณ 700,000 บาท ปัจจุบันโยมที่ยืมเงินผิดสัญญาไม่คืนเงิน อาตมาควรดำเนินการอย่างไร

คำตอบโดย ทนายภูวงษ์
ในกรณีนี้หลวงพ่อสามารถดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อเรียกเงินคืนได้ โดยมีแนวทางดังนี้
1. ตรวจสอบหลักฐานการกู้ยืม เช่น
• สัญญาเงินกู้ (ถ้ามี)
• ข้อความแชทที่แสดงเจตนาขอกู้
• หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิป หรือรายการเดินบัญชี
2. หากไม่มีสัญญาเงินกู้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีหลักฐานการโอนเงินและข้อความแสดงเจตนาในการกู้ ก็สามารถฟ้องร้องเรียกเงินคืนได้เช่นกัน โดยอาศัย พยานเอกสารและพยานบุคคลประกอบ
3. สามารถยื่นฟ้องเป็น คดีผู้บริโภค ได้ที่ศาล โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล (ในกรณีที่เป็นการกู้เงินส่วนตัวระหว่างบุคคลธรรมดาและมิใช่การค้าหรือธุรกิจ)
4. กรณีที่จำเลยไม่มีทรัพย์หรือไม่ชำระหนี้หลังคำพิพากษา อาตมาอาจดำเนินการบังคับคดีต่อได้ เช่น อายัดเงินเดือนหรือยึดทรัพย์สิน

สรุป
อาตมาควรรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้วติดต่อทนายความเพื่อดำเนินคดีเรียกเงินคืนผ่านศาล ซึ่งสามารถดำเนินคดีได้ตามสิทธิของผู้ให้กู้โดยชอบด้วยกฎหมาย

ติดต่อทนายภูวงษ์ 0818034097
เครือข่ายทนายความของเรามีทนายความทั่วประเทศที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการคุณ
หากต้องการค้นหาคำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อย เข้าดูได้ที่เว็บไซต์ www.ทนายภูวงษ์.com

 

 

Visitors: 64,994