Chat with us, powered by LiveChat

คดีโกงเจ้าหนี้ (มาตรา 349-351)

สู้คดีโกงเจ้าหนี้

A. ข้อกฎหมายและองค์ประกอบกฎหมายความผิดคดีโกงเจ้าหนี้
B. ฟ้องหรือแจ้งความคดีโกงเจ้าหนี้ต้องเตรียมพยานหลักฐานอะไรบ้าง
C. อัตราโทษคดีโกงเจ้าหนี้
D. สู้คดีโกงเจ้าหนี้อย่างไรให้ชนะ
E. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ

***************************************
A. สำหรับคดีโกงเจ้าหนี้ในประเทศไทย กำหนดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349 ซึ่งเป็นการกระทำที่มีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้อย่างถูกต้อง องค์ประกอบสำคัญและข้อกฎหมายในเรื่องนี้ได้แก่:

### ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349
**ข้อกฎหมาย:**
- "ผู้ใดเอาทรัพย์สินซึ่งเป็นของตนเอง หรือ มีส่วนเป็นของตนเองไปเสีย โดยการปกปิด ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือโอน หรือกระทำการด้วยประการใดๆ เพื่อมิให้เจ้าหนี้ติดตามเอาทรัพย์สินนั้นไปได้ ท่านว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

### องค์ประกอบของการกระทำผิด

1. **ตัวบุคคลผู้กระทำผิด:**
- ผู้ที่เป็นฝ่ายที่มีหนี้สินต่อเจ้าหนี้ หรือมีส่วนในทรัพย์สินนั้น

2. **การกระทำ:**
- การทำลายทรัพย์สิน: การทำให้ทรัพย์สินสูญเสียสภาพหรือลดมูลค่า
- การปกปิดหรือซ่อนเร้น: การกระทำใด ๆ ที่ทำให้ทรัพย์สินนั้นไม่สามารถติดตามหรือพบเจอได้
- การจำหน่ายหรือโอน: การขาย, ให้, หรือโอนทรัพย์สินไปยังผู้อื่นโดยมีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการชำระหนี้
- การกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้เจ้าหนี้ไม่สามารถติดตามเอาทรัพย์สินไปได้

3. **เจตนา:**
- ต้องมีเจตนาที่จะไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับทรัพย์สินหรือชำระหนี้อย่างถูกต้อง

### โทษทางอาญา
- จำคุกไม่เกิน 2 ปี
- ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
- หรือทั้งจำทั้งปรับ

การกระทำผิดดังกล่าวมักเกิดขึ้นในกรณีที่บุคคลมีหนี้สินและต้องการหลีกเลี่ยงการชำระหนี้โดยการทำลายทรัพย์สินหรือทำให้เจ้าหนี้ไม่สามารถติดตามทรัพย์สินได้ หากเจตนาและการกระทำได้รับการพิสูจน์ในศาล ผู้กระทำสามารถถูกดำเนินคดีได้ตามบทบัญญัตินี้

***************************************

B. การฟ้องหรือแจ้งความในคดีโกงเจ้าหนี้ ต้องเตรียมพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์การกระทำความผิดและความสัมพันธ์เกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ รวมถึงเจตนาของลูกหนี้ที่ประสงค์จะโกงเจ้าหนี้ พยานหลักฐานที่ควรเตรียมมีดังนี้:

### 1. หลักฐานเกี่ยวกับหนี้สิน
- **สัญญาหรือข้อตกลงการกู้ยืมเงิน**: เพื่อพิสูจน์ว่าลูกหนี้มีหนี้สินที่ต้องชำระ
- **หลักฐานการโอนเงินหรือหลักฐานการชำระเงิน**: เอกสารที่ยืนยันว่าลูกหนี้ได้รับเงินหรือทรัพย์สินจากเจ้าหนี้
- **ใบเสร็จรับเงิน**: เพื่อยืนยันการรับเงิน หรือค่าสินค้าและบริการ

### 2. หลักฐานการกระทำโกง
- **เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน**: เช่น โฉนดที่ดิน, หนังสือรับรองโอนทรัพย์สิน, เอกสารการขายหรือโอนทรัพย์สินให้ผู้อื่น
- **หลักฐานการโอนหรือขายทรัพย์สิน**: เช่น เอกสารการโอนที่มีเจตนาที่จะทำให้ทรัพย์สินหายไปจากการติดตามของเจ้าหนี้
- **ใบแจ้งความ**: หากมีการรายงานการหายไปของทรัพย์สิน หรือมีกรณีการซ่อนเร้นทรัพย์สิน

### 3. หลักฐานทางการเงินและธุรกรรม
- **บัญชีธนาคารหรือบันทึกการทำธุรกรรม**: เพื่อพิสูจน์ว่ามีการเคลื่อนย้ายเงินหรือทรัพย์สินในวิธีที่ผิดปกติ
- **รายงานการตรวจสอบบัญชี**: หากมีการตรวจสอบบัญชีโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการทุจริต

### 4. พยานบุคคล
- **พยานบุคคลที่รู้เห็น**: บุคคลที่สามารถยืนยันการกระทำของลูกหนี้ เช่น พยานที่เห็นการโอนหรือขายทรัพย์สิน
- **ผู้เชี่ยวชาญ**: ในบางกรณีอาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ความคิดเห็นหรือวิเคราะห์การกระทำทางการเงิน

### 5. ข้อมูลการติดต่อและรายงานสมุดบัญชี
- **รายงานการใช้จ่าย**: รายงานการใช้จ่ายเงินที่ผิดปกติ หรือการใช้เงินไปในทางผิดกฎหมาย
- **ข้อมูลการติดต่อ**: ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, และข้อมูลการติดต่ออื่น ๆ ของลูกหนี้

### ขั้นตอนการเตรียมหลักฐาน
1. รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
2. ทำสำเนาเอกสารทุกชิ้นเผื่อสอบสวนนอกสถานที่
3. เตรียมรายงานหรือสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเข้าใจเรื่องอย่างถูกต้อง
4. ติดต่อทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายเพื่อขอคำปรึกษา

การฟ้องหรือแจ้งความคดีโกงเจ้าหนี้ต้องเตรียมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบเพื่อให้สามารถพิสูจน์การกระทำผิดและเจตนาของลูกหนี้ได้ในศาล

***************************************

C. อัตราโทษสำหรับการโกงเจ้าหนี้ในประเทศไทยตามประมวลกฎหมายอาญานั้น คือ**จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ** ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำและคำตัดสินของศาล

***************************************
D. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ
การรู้กฎหมายและรู้จักใช้ประโยชน์จากทนายความเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่เสียเปรียบในคดีต่าง ๆ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำคัญ:

### **รู้กฎหมาย**
1. **ศึกษากฎหมายเบื้องต้น**:
- เรียนรู้หลักการและข้อกฎหมายพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง ฯลฯ
- ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์, หนังสือกฎหมาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจ

2. **รู้สิทธิและหน้าที่**:
- ศึกษาสิทธิ์ของตนเอง หน้าที่และข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เมื่อรู้สิทธิ์แล้ว สามารถปกป้องตนเองและต่อสู้ในกรณีที่ถูกละเมิดได้

### **รู้จักทนายความ**
1. **เลือกทนายที่มีความเชี่ยวชาญ**:
- เลือกทนายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในคดีที่คุณเผชิญ
- ทนายที่เคยจัดการคดีคล้ายคลึงหรือมีประวัติที่ดีจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น

2. **สร้างความสัมพันธ์ที่ดี**:
- สื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อตรงกับทนายความ ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ
- ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทนายเข้าใจสถานการณ์และพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสม

### **วางแผนและเตรียมการ**
1. **รวบรวมหลักฐาน**:
- เก็บรวบรวมหลักฐานสำคัญ เช่น เอกสาร, ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือพยานบุคคล
- ทำสำเนาเอกสารสำคัญเพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย

2. **จัดการพยาน**:
- หาพยานที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
- ทำความเข้าใจและฝึกซ้อมการให้การในศาล

3. **เตรียมตัวสำหรับการติดต่อสื่อสาร**:
- เตรียมคำถาม, ข้อโต้แย้ง, และข้อแนะนำที่สำคัญในการพูดคุยกับทนาย
- ฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้นในการซักถามในศาล

### **ใช้เครื่องมือเสริม**
1. **การวิจัย**:
- ใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อเข้าใจกฎหมายเพิ่มเติมและเรียนรู้จากกรณีคดีอื่น ๆ
- ศึกษาผลลัพธ์ของคดีที่คล้ายคลึงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

2. **แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม**:
- เข้าร่วมกลุ่มหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
- ใช้บริการที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือศูนย์ให้บริการด้านกฎหมายฟรีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การรู้กฎหมาย รู้จักทนาย และเตรียมการอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและโอกาสในการต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียเปรียบในทุกสถานการณ์
ค้นหาทนายความสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ https://www.thailand-lawyer.info

***************************************

Visitors: 47,656