Chat with us, powered by LiveChat

คดีแชร์

1. คดีแชร์

A. ข้อกฎหมายและองค์ประกอบกฎหมายเกี่ยวกับแชร์ในคดีแพ่ง
B. ฟ้องหรือสู้คดีแชร์ในคดีแพ่งต้องเตรียมพยานหลักฐานอะไรบ้าง
C. สู้คดีแชร์อย่างไรให้ชนะ
D. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ

 

***************************************

 

A. ในคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่ มีข้อกฎหมายและองค์ประกอบที่สำคัญที่คุณควรทำความเข้าใจ ได้แก่ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริตในเชิงพาณิชย์

 

1. **กฎหมายที่เกี่ยวข้อง**:

 

- **ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์** มาตรา 343 บุคคลที่กระทำการอันเป็นการฉ้อโกงต้องรับผิดทางแพ่งในการชดใช้ค่าเสียหาย

 

- **พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์** บางกรณีที่แชร์ลูกโซ่มีการใช้เทคโนโลยีและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อหลอกลวง

 

- **พระราชบัญญัติการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจการเงินนอกระบบ** การประกอบธุรกิจทางการเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย

 

2. **องค์ประกอบกฎหมายของคดีแพ่งที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่**:

 

- **การฉ้อโกง**: ต้องมีการแสดงหรือการกระทำที่เป็นการโกงเพื่อให้มีการยอมรับเข้าร่วมแชร์โดยที่ผู้เข้าร่วมเชื่อเป็นจริง ทั้งนี้องค์ประกอบฉ้อโกงได้แก่

- **การแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นเท็จ**: มีการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนหรือโกหกเกี่ยวกับการลงทุน การให้ผลตอบแทน ฯลฯ
- **การยอมรับผลการกระทำ**: ผู้เสียหายต้องแสดงให้เห็นว่าได้ทำการลงทุนหรือมีการยอมรับเข้าร่วมแชร์เนื่องจากหลงเชื่อในข้อมูลเท็จนั้น
- **ความเสียหาย**: ผู้เสียหายต้องแสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่ได้รับจากการร่วมแชร์

 

- **การเรียกค่าเสียหาย**: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าเกิดความเสียหายจากการร่วมแชร์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสียเงินลงทุนหรือได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

- **ตำหนิที่เกิดจากการกระทำ**: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าความเสียหายเกิดจากการกระทำของจำเลยโดยตรง

 

3. **กระบวนการทางแพ่ง**:

 

- **ฟ้องร้อง**: โจทก์ต้องทำการฟ้องร้องในศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายและพิสูจน์ว่าเกิดการฉ้อโกง
- **การพิจารณาคดี**: ศาลจะทำการพิจารณาหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายและพิจารณาคำตัดสินว่าจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่

การเตรียมตัวให้พร้อม มีความรู้ความเข้าใจในกฎหมาย และปรึกษาทนายความที่เชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่สำคัญในการต่อสู้คดีแชร์ในคดีแพ่ง

 

***************************************

 

B. การฟ้องหรือสู้คดีแชร์ในคดีแพ่ง จำเป็นต้องเตรียมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบเพื่อสนับสนุนการฟ้องร้องของคุณ ดังนี้:

 

1. **เอกสารสัญญาและข้อตกลง**:
- สัญญาการลงทุนหรือข้อตกลงเข้าร่วมแชร์
- หลักฐานการรับผลตอบแทนหรือการโอนเงิน
- ข้อความหรืออีเมลที่มีการรับรองข้อมูลการลงทุน

 

2. **หลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงิน**:
- หลักฐานการโอนเงินระหว่างผู้เสียหายและจำเลย เช่น สลิปโอนเงิน, รายการบัญชีธนาคาร
- หลักฐานการจ่ายเงินหรือรับผลตอบแทนจากแชร์

 

3. **ข้อความโฆษณาและโปรโมชั่น**:
- โฆษณาหรือข้อความโปรโมทแชร์บนโซเชียลมีเดีย, เว็บไซต์
- หลักฐานการเสนอโบนัส, รางวัล หรือผลประโยชน์ที่ไม่เป็นจริง

 

4. **คำให้การและพยานบุคคล**:
- คำให้การจากผู้เสียหายอื่นๆ ที่มีลักษณะการลงทุนคล้ายคลึงกัน
- คำให้การจากบุคคลที่รู้เห็นการกระทำของจำเลย
- การเรียกพยานบุคคลที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลอกลวง

 

5. **หลักฐานการสื่อสาร**:
- ข้อความที่ส่งผ่านแอปพลิเคชันการสื่อสารต่างๆ เช่น Line, Facebook Messenger, WhatsApp
- อีเมลหรือจดหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและข้อตกลง

 

6. **เอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง**:
- หลักฐานจากหน่วยงานกำกับดูแลการตลาดการเงิน เช่น ธนาคาร หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
- หนังสือรับรองหรือข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

7. **รายงานการตรวจสอบทางการเงิน**:
- รายงานการตรวจสอบบัญชี หรือรายงานทางการเงินที่แสดงถึงเส้นทางการเงินที่ผิดปกติ
- รายงานจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินหรือบัญชีที่วิเคราะห์การกระทำผิด

 

8. **หลักฐานเกี่ยวกับครอบครัวหรือสถานะทางสังคมของจำเลย**:
- เอกสารที่แสดงว่าจำเลยมีประวัติการทุจริตหรือการหลอกลวงในกรณีคล้ายคลึงก่อนหน้า
- หลักฐานที่แสดงถึงพฤติกรรมทางการเงินที่ขัดแย้งกับสถานะที่จำเลยรับรอง

 

หากต้องการความแม่นยำ ควรปรึกษาทนายความที่เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำการรวบรวมหลักฐานที่ดีที่สุดและเตรียมตัวสำหรับการสู้คดีในศาลค่ะ

 

***************************************

 

C. การสู้คดีแชร์ให้ชนะต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ดังนี้:

 

1. **ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง**:
- ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับการแชร์หรือการลงทุนที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค
- ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้เสียหายหรือผู้ลงทุน

 

2. **รวบรวมและจัดเตรียมพยานหลักฐาน**:
- รวบรวมหลักฐานที่ชัดเจนและครอบคลุม เช่น สัญญา, หลักฐานการโอนเงิน, ข้อความสื่อสาร, โฆษณา, คำให้การพยาน เป็นต้น
- จัดเรียงหลักฐานอย่างเป็นระบบและทำสำเนาเก็บไว้ให้ครบถ้วน

 

3. **ปรึกษาทนายความ**:
- ทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในคดีแชร์หรือการฉ้อโกงจะช่วยแนะนำวิธีการดำเนินคดีและความพร้อมในการสู้คดี
- ให้ทนายความตรวจสอบและเตรียมพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในการต่อสู้คดีในศาล

 

4. **การยื่นฟ้องและเอกสารในศาล**:
- ดำเนินการยื่นฟ้องตามขั้นตอนที่ถูกต้องและในระยะเวลาที่กำหนด
- ตรวจสอบและยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องครบถ้วนและถูกต้องเพื่อประกอบการฟ้องคดี

 

5. **การจัดการกับข้อเท็จจริงและข้อโต้แย้ง**:
- เตรียมตัวให้พร้อมกับข้อโต้แย้งที่จำเลยอาจจะยกขึ้นมา ใช้ข้อเท็จจริงและหลักฐานที่มีในการโตแย้ง
- เสริมสร้างกรณีของตนเองด้วยการนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนและมีน้ำหนัก

 

6. **การเรียกพยานบุคคล**:
- เรียกพยานบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการแชร์และการเสียหายที่เกิดขึ้น
- เตรียมคำถามที่เหมาะสมและซักพยานในศาลอย่างมีประสิทธิภาพ

 

7. **ติดตามความคืบหน้าของคดี**:
- ติดตามการดำเนินคดีอย่างใกล้ชิดและติดต่อกับทนายความอย่างสม่ำเสมอ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของทนายความและปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด

 

8. **จัดการกับอารมณ์และความเครียด**:
- แม้คดีจะยาวนานและซับซ้อน แต่การควบคุมอารมณ์และความเครียดจะช่วยให้สามารถตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- หาเวลาพักผ่อนและหาคำแนะนำจากครอบครัวหรือเพื่อนสนิทเพื่อช่วยลดความกังวล

 

การสู้คดีแชร์ให้ชนะจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวที่ดีและการทำงานร่วมกันกับทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ.

 

***************************************

 

D. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ
การรู้กฎหมายและรู้จักใช้ประโยชน์จากทนายความเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่เสียเปรียบในคดีต่าง ๆ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำคัญ:

 

### **รู้กฎหมาย**
1. **ศึกษากฎหมายเบื้องต้น**:
- เรียนรู้หลักการและข้อกฎหมายพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง ฯลฯ
- ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์, หนังสือกฎหมาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจ

 

2. **รู้สิทธิและหน้าที่**:
- ศึกษาสิทธิ์ของตนเอง หน้าที่และข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เมื่อรู้สิทธิ์แล้ว สามารถปกป้องตนเองและต่อสู้ในกรณีที่ถูกละเมิดได้

 

### **รู้จักทนายความ**
1. **เลือกทนายที่มีความเชี่ยวชาญ**:
- เลือกทนายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในคดีที่คุณเผชิญ
- ทนายที่เคยจัดการคดีคล้ายคลึงหรือมีประวัติที่ดีจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น

 

2. **สร้างความสัมพันธ์ที่ดี**:
- สื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อตรงกับทนายความ ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ
- ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทนายเข้าใจสถานการณ์และพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสม

 

### **วางแผนและเตรียมการ**
1. **รวบรวมหลักฐาน**:
- เก็บรวบรวมหลักฐานสำคัญ เช่น เอกสาร, ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือพยานบุคคล
- ทำสำเนาเอกสารสำคัญเพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย

 

2. **จัดการพยาน**:
- หาพยานที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
- ทำความเข้าใจและฝึกซ้อมการให้การในศาล

 

3. **เตรียมตัวสำหรับการติดต่อสื่อสาร**:
- เตรียมคำถาม, ข้อโต้แย้ง, และข้อแนะนำที่สำคัญในการพูดคุยกับทนาย
- ฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้นในการซักถามในศาล

 

### **ใช้เครื่องมือเสริม**
1. **การวิจัย**:
- ใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อเข้าใจกฎหมายเพิ่มเติมและเรียนรู้จากกรณีคดีอื่น ๆ
- ศึกษาผลลัพธ์ของคดีที่คล้ายคลึงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

 

2. **แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม**:
- เข้าร่วมกลุ่มหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
- ใช้บริการที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือศูนย์ให้บริการด้านกฎหมายฟรีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

 

การรู้กฎหมาย รู้จักทนาย และเตรียมการอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและโอกาสในการต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียเปรียบในทุกสถานการณ์
ค้นหาทนายความสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ https://www.thailand-lawyer.info

 

***************************************


2. คำพิพากษาฎีกาเกี่ยวกับแชร์

ทนายเล่าเรื่อง แชร์

ฎีกาที่ 20111/2556

พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 มาตรา 6 บัญญัติว่า "ห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้... (2) มีจำนวนสมาชิกวงแชร์รวมกันทุกวงมากกว่าสามสิบคน" จึงเห็นได้ว่าจำนวนสมาชิกที่เล่นแชร์นั้น กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นการเล่นแชร์วงเดียวกันเท่านั้น แต่อาจเป็นการเล่นแชร์คนละวงกันหรือหลายวงต่างกันได้ ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าในการเป็นนายวงแชร์หรือเล่นแชร์นั้นมีสมาชิกวงแชร์ทุกวงจำนวนรวมกันมากกว่า 30 คน เมื่อตามฎีกาของจำเลยที่ 1 รับว่า แชร์วงใหญ่ประกอบด้วยวงแชร์ 2 วง จำนวนสมาชิกวงละ 29 คน จึงมีจำนวนรวมกัน 58 คน เป็นจำนวนมากกว่า 30 คน และแชร์วงเล็กมีจำนวนวงละ 27 คน จึงมีจำนวน 54 คน อันเป็นจำนวนมากกว่า 30 คนเช่นกัน จำเลยที่ 1 ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 มาตรา 6 (2)

ปรึกษาทนายสู้คดี 099 464 4445  ค้นหาทนายได้ที่เวปไซต์นี้   www.สู้คดี.com 

*************************************** 

2. ทนายเล่าเรื่อง อายุความ แชร์ 10 ปี

พ.ร.บ.การเล่นแชร์ พ.ศ.2534 เป็นบทบัญญัติที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองประชาชนและเพื่อมิให้มีการประกอบธุรกิจการเล่นแชร์ที่กระทบต่อการระดมเงินออมของสถาบันการเงินที่ทางราชการสนับสนุนและรับผิดชอบซึ่งส่งผลกระทบไปถึงระบบเศรษฐกิจโดยส่วนรวม แต่การเล่นแชร์ของประชาชนโดยทั่วไปที่มิได้ดำเนินการเป็นธุรกิจยังให้กระทำต่อไปได้ ดังนั้น มาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าว จึงบัญญัติห้ามมิให้บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดใน 4 ประการ เช่น ตามมาตรา 6 (3) อีกทั้งมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้บัญญัติเอาความผิดแก่นายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ที่ฝ่าฝืนมาตรา 6 แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าประสงค์จะเอาความผิดเฉพาะผู้เป็นนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้น ดังนั้น นิติกรรมการเล่นแชร์ของนายวงแชร์หรือผู้จัดให้มีการเล่นแชร์เท่านั้นที่ตกเป็นโมฆะ แต่นิติกรรมการเล่นแชร์ของโจทก์และจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ไม่ตกเป็นโมฆะไปด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 173 สิทธิหรือหน้าที่ของสมาชิกวงแชร์มีความผูกพันตามกฎหมายอยู่อย่างไรความผูกพันย่อมมีอยู่เช่นนั้นเมื่อจำเลยที่ 1 ประมูลแชร์ได้และสั่งจ่ายเช็คเงินค่าแชร์มอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อนำไปมอบให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกวงแชร์ที่ยังไม่ได้ประมูล เพื่อให้โจทก์นำไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากจำเลยที่ 1 มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงิน ถือว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายผิดสัญญา จึงต้องรับผิดชำระเงินค่าแชร์แก่โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง การเล่นแชร์เป็นสัญญาประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากการตกลงกันระหว่างผู้เล่น สามารถบังคับกันได้ตามกฎหมาย แต่อายุความเกี่ยวกับการฟ้องเรียกเงินค่าแชร์ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนด 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 เมื่อวงแชร์ล้มในวันที่ 20 กรกฎาคม 2540 จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 25 พฤษภาคม 2541 และเช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันเดียวกัน โจทก์อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ได้นับแต่วันดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2546 ซึ่งเป็นวันฟ้องยังไม่พ้นกำหนด 10 ปี คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445  ค้นหาทนายใกล้คุณได้ที่เวปไซต์นี้   www.ทนายใกล้คุณ.com

**************************************

 

Visitors: 57,250