Chat with us, powered by LiveChat

คดีแชร์ (อาญา)

1. คดีแขร์ (อาญา)

A. ข้อกฎหมายและองค์ประกอบกฎหมายความผิดฐานเล่นแชร์ในคดีอาญา
B. ฟ้องหรือแจ้งความคดีแชร์ในคดีอาญาต้องเตรียมพยานหลักฐานอะไรบ้าง
C. อัตราโทษคดีแชร์ในคดีอาญา
D. สู้คดีแชร์ในคดีอาญาอย่างไรให้ชนะ
E. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ

***************************************

A. การเล่นแชร์ในแง่ของกฎหมายไทย ถ้ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย การเล่นแชร์อาจถูกดำเนินคดีในหลายฐานความผิด ดังนี้:

1. **ความผิดฐานฉ้อโกง**:
- กฎหมายอาญามาตรา 341: ผู้ใดโดยการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอก เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. **ความผิดฐานเปิดแชร์ลูกโซ่**:
- พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527: การเล่นแชร์โดยมีการชักจูงให้ผู้อื่นเข้าร่วมโดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง สามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนี้ ซึ่งมีโทษร้ายแรง

องค์ประกอบของความผิดตามกฎหมายเหล่านี้อย่างละเอียด:

1. **ความผิดฐานฉ้อโกง**:
- **การหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ**: ใช้ข้อความหรือข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเพื่อชักจูงใจให้ผู้อื่นเข้าร่วมเล่นแชร์
- **การปกปิดความจริง**: ไม่บอกข้อมูลที่สำคัญหรือสิ่งที่ควรบอกเพื่อให้ผู้อื่นเข้าร่วมแชร์
- **ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์สิน**: การกระทำดังกล่าวทำให้มีการโอนทรัพย์สินจากผู้อื่นมาเป็นของผู้กระทำผิด

2. **ความผิดฐานเปิดแชร์ลูกโซ่**:
- **การชักจูงผู้อื่น**: ชักชวนผู้อื่นให้เข้าร่วมแชร์โดยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูงเกินกว่าที่เหมาะสมกับการลงทุน
- **โครงสร้างแชร์ที่ไม่ยั่งยืน**: รูปแบบแชร์ที่ใช้เงินจากสมาชิกใหม่มาจ่ายสมาชิกเก่า ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับสมาชิกในระยะยาว

### การป้องกันและแก้ไข

- **ปฏิบัติตามกฎหมาย**: ปฏิบัติตามข้อกำหนดและระเบียบของกฎหมายในการจัดการหุ้นแชร์
- **ตรวจสอบข้อมูล**: ก่อนเข้าร่วมแชร์ ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจว่าแชร์ดังกล่าวไม่เป็นการหลอกลวงหรือผิดกฎหมาย
- **ขอคำปรึกษาทางกฎหมาย**: หากมีข้อสงสัย ควรขอคำแนะนำจากทนายความเพื่อให้แน่ใจว่าการกระทำดังกล่าวไม่ละเมิดกฎหมาย

การตระหนักรู้และปฏิบัติตามกฎหมายจะช่วยลดความเสี่ยงในการกระทำความผิดฐานเล่นแชร์และรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม.

***************************************

B. การฟ้องหรือแจ้งความคดีแชร์ในคดีอาญาต้องเตรียมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือของคดีและเพิ่มโอกาสให้การดำเนินคดีประสบความสำเร็จ พยานหลักฐานที่ควรเตรียมมีดังนี้:

1. **เอกสารและใบเสร็จรับเงิน**:
- หลักฐานการโอนเงินและการจ่ายเงิน เช่น สลิปการโอนเงิน, ใบเสร็จรับเงินที่แสดงการชำระเงินเข้าหรือออกจากกองแชร์

2. **สัญญาและข้อตกลง**:
- ข้อตกลงหรือสัญญาการเล่นแชร์ที่มีการลงลายมือชื่อของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ช่วยยืนยันการเชื่อมโยงระหว่างผู้เล่นแชร์

3. **หลักฐานการสื่อสาร**:
- ข้อความหรือการสนทนาในโปรแกรมแชทต่าง ๆ ที่ใช้ในการติดต่อกันเกี่ยวกับแชร์ เช่น LINE, Facebook, WhatsApp, หรือ email
- บันทึกโทรศัพท์หรือการอัดเสียง (ถ้ามี)

4. **หลักฐานบัญชีธนาคาร**:
- รายการเคลื่อนไหวทางบัญชีธนาคารที่แสดงการรับ-จ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับแชร์

5. **พยานบุคคล**:
- บุคคลที่สามารถให้ข้อมูลหรือยืนยันเหตุการณ์ได้ เป็นพยานที่เกี่ยวข้องหรือเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นแชร์

6. **รูปถ่ายหรือวิดีโอ**:
- รูปถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงถึงการดำเนินการเกี่ยวกับแชร์ เช่น การประชุมหรือการเจรจา

7. **หลักฐานอื่น ๆ**:
- หลักฐานอื่นที่ทำให้สามารถพิสูจน์ความเกี่ยวข้องและการกระทำความผิดของผู้ต้องสงสัยได้ เช่น โพสต์ในโซเชียลมีเดีย, สื่อสิ่งพิมพ์

### ขั้นตอนการแจ้งความ

1. **เตรียมพยานหลักฐาน**: รวบรวมทุกพยานหลักฐานที่จำเป็นตามที่ระบุไว้ข้างต้น
2. **พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ**: ติดต่อสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดไปรับเรื่องและแสดงพยานหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
3. **ลงบันทึกประจำวัน**: เจ้าหน้าที่จะลงบันทึกประจำวันและจัดทำรายงานเกี่ยวกับการร้องทุกข์ของท่าน
4. **ให้ปากคำ**: ให้ปากคำตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและตอบคำถามของเจ้าหน้าที่
5. **ติดตามคดี**: ตรวจสอบความคืบหน้าของคดีเป็นระยะ โดยสามารถติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่คลี่คลายคดี

### การขอคำปรึกษาทางกฎหมาย

หากท่านไม่แน่ใจเกี่ยวกับพยานหลักฐานหรือกระบวนการแจ้งความ อาจควรขอคำปรึกษาจากทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในการดำเนินคดี.

การเตรียมพยานหลักฐานอย่างละเอียดและครบถ้วนจะช่วยประสบความสำเร็จในการแจ้งความคดีแชร์และปกป้องสิทธิประโยชน์ของท่าน.

***************************************

C. อัตราโทษของคดีแชร์ในคดีอาญา จะแตกต่างกันไปตามลักษณะและระดับของความผิด ตามกฎหมายของแต่ละประเทศ แต่ในประเทศไทย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมแชร์ลูกโซ่ อาจถูกฟ้องในหลายประเด็น เช่น การฉ้อโกงประชาชน หรือการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์

หากพบว่ามีการฉ้อโกงประชาชน ผู้กระทำผิดอาจถูกลงโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี และปรับเป็นเงินจำนวนมาก

สำหรับการละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์ โทษอาจถึงจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และปรับเป็นเงินจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลและข้อเท็จจริงของแต่ละกรณี

คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาจากทนายหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

***************************************

D. การสู้คดีแชร์ในคดีอาญาให้มีโอกาสชนะต้องเตรียมการอย่างรอบคอบและมีการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ต่อไปนี้คือขั้นตอนและคำแนะนำที่อาจช่วยให้คุณมีโอกาสชนะคดีมากขึ้น:

1. **หาทนายผู้เชี่ยวชาญ**: ค้นหาและว่าจ้างทนายความที่เชี่ยวชาญด้านคดีอาญาและมีประสบการณ์ในคดีแชร์ลูกโซ่หรือคดีที่คล้ายคลึงกัน

2. **รวบรวมหลักฐาน**: เก็บรวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่แสดงให้เห็นว่าคุณไม่มีเจตนาฉ้อโกง เหล่านี้รวมถึง:
- การสนทนาและการสื่อสารที่เข้าข่ายสำคัญ
- เอกสารทางการเงินและรายงานการทำธุรกิจ
- พยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อโต้แย้งของคุณ

3. **เตรียมตัวสำหรับการพิจารณาคดี**: ซ้อมการตอบคำถามในศาลกับทนาย เพื่อให้คุณสามารถตอบคำถามจากอัยการและศาลได้อย่างมั่นใจและชัดเจน

4. **หาพยานบุคคล**: หาบุคคลที่สามารถมายืนยันว่าไม่มีการฉ้อโกงหรือละเมิดกฎหมายเกิดขึ้น พยานควรจะเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือและมีความสัมพันธ์กับคดี

5. **ติดตามข้อกฎหมาย**: ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ เพื่อทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์ในกระบวนการทางกฎหมาย

6. **เตรียมข้อโต้แย้งที่แข็งแรง**: ทนายของคุณควรจะสร้างข้อโต้แย้งที่แข็งแรงเพื่อต่อสู้กับข้อกล่าวหาของอัยการ โดยแสดงหลักฐานที่ยืนยันว่าคุณไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเจตนาฉ้อโกง

7. **ปฏิบัติตามคำแนะนำของทนาย**: ทนายจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในกระบวนการทางกฎหมาย และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ควรทำตามคำชี้แนะเหล่านี้อย่างเคร่งครัด

8. **พิจารณาสารภาพตามข้อเท็จจริง**: ในบางกรณี หากหลักฐานไม่เพียงพอที่จะต่อสู้หรือโอกาสชนะไม่สูง คุณอาจพิจารณาการสารภาพภายใต้เงื่อนไขที่ทนายแนะนำเพื่อลดโทษ

การสู้คดีในคดีแชร์ลูกโซ่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและการให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะคดี

***************************************

E. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ
การรู้กฎหมายและรู้จักใช้ประโยชน์จากทนายความเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่เสียเปรียบในคดีต่าง ๆ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำคัญ:

### **รู้กฎหมาย**
1. **ศึกษากฎหมายเบื้องต้น**:
- เรียนรู้หลักการและข้อกฎหมายพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง ฯลฯ
- ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์, หนังสือกฎหมาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจ

2. **รู้สิทธิและหน้าที่**:
- ศึกษาสิทธิ์ของตนเอง หน้าที่และข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เมื่อรู้สิทธิ์แล้ว สามารถปกป้องตนเองและต่อสู้ในกรณีที่ถูกละเมิดได้

### **รู้จักทนายความ**
1. **เลือกทนายที่มีความเชี่ยวชาญ**:
- เลือกทนายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในคดีที่คุณเผชิญ
- ทนายที่เคยจัดการคดีคล้ายคลึงหรือมีประวัติที่ดีจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น

2. **สร้างความสัมพันธ์ที่ดี**:
- สื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อตรงกับทนายความ ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ
- ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทนายเข้าใจสถานการณ์และพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสม

### **วางแผนและเตรียมการ**
1. **รวบรวมหลักฐาน**:
- เก็บรวบรวมหลักฐานสำคัญ เช่น เอกสาร, ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือพยานบุคคล
- ทำสำเนาเอกสารสำคัญเพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย

2. **จัดการพยาน**:
- หาพยานที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
- ทำความเข้าใจและฝึกซ้อมการให้การในศาล

3. **เตรียมตัวสำหรับการติดต่อสื่อสาร**:
- เตรียมคำถาม, ข้อโต้แย้ง, และข้อแนะนำที่สำคัญในการพูดคุยกับทนาย
- ฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้นในการซักถามในศาล

### **ใช้เครื่องมือเสริม**
1. **การวิจัย**:
- ใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อเข้าใจกฎหมายเพิ่มเติมและเรียนรู้จากกรณีคดีอื่น ๆ
- ศึกษาผลลัพธ์ของคดีที่คล้ายคลึงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

2. **แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม**:
- เข้าร่วมกลุ่มหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
- ใช้บริการที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือศูนย์ให้บริการด้านกฎหมายฟรีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การรู้กฎหมาย รู้จักทนาย และเตรียมการอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและโอกาสในการต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียเปรียบในทุกสถานการณ์
ค้นหาทนายความสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ https://www.thailand-lawyer.info

***************************************

Visitors: 57,250