Chat with us, powered by LiveChat

คดีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (มาตรา 147-166)

สู้คดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ

A. ข้อกฎหมายและองค์ประกอบกฎหมายความผิดฐานอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ
B. ฟ้องหรือแจ้งความคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบต้องเตรียมพยานหลักฐานอะไรบ้าง
C. อัตราโทษคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ
D. สู้คดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบอย่างไรให้ชนะ
E. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ

ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมฟ้องคดีหรือสู้คดีที่เฟสบุ๊ค ค้นหา “คดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ”

***************************************

A. การกระทำความผิดฐานอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบในประเทศไทยมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับการกระทำและตำแหน่งหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหา กฎหมายที่เกี่ยวข้องหลัก ๆ จะอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายเฉพาะเช่น พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต นี่คือข้อกฎหมายและองค์ประกอบที่สำคัญ:

### ประมวลกฎหมายอาญา
**มาตรา 147 (เจ้าหน้าที่รัฐเรียกหรือรับสินบน)**
- เจ้าหน้าที่รัฐใดเรียกร้อง รับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับการกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่
- มีโทษจำคุก 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต และปรับ 100,000 - 400,000 บาท

**มาตรา 149 (เจ้าหน้าที่รัฐบังคับเรียกร้องสินบน)**
- เจ้าหน้าที่รัฐใดเรียกหรือรับสินบนโดยการบังคับขู่เข็ญ
- มีโทษจำคุก 10-30 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต และปรับ 200,000 - 600,000 บาท

**มาตรา 157 (เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ผิดวิธี)**
- เจ้าพนักงานผู้ใดมิได้ปฏิบัติตามหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
- มีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 2,000-20,000 บาท

### พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)
**มาตรา 123/1 (เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริตและกระทบต่อหน้าที่)**
- เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดนไม่สุจริต มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

**มาตรา 123/2 (เจ้าหน้าที่รัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ)**
- เจ้าหน้าที่รัฐเรียก/รับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ที่ประสงค์จะได้หรือได้ทรัพย์สินในทางมิชอบ
- มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

### องค์ประกอบกฎหมาย
1. **ผู้กระทำผิดต้องเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ**: การกระทำความผิดในเรื่องนี้ต้องกระทำโดยผู้ที่มีตำแหน่งหรือหน้าที่ในรัฐบาล หรือตามที่กฎหมายบัญญัติว่าเจ้าหน้าที่รัฐ
2. **การกระทำด้วยเจตนา**: ต้องมีการกระทำโดยมีเจตนาทุจริตหรือประพฤติมิชอบ
3. **มีการรับประโยชน์โดยมิชอบ**: รวมถึงเรียกหรือรับสินบน รับเงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ไม่สมควรจากผู้อื่น
4. **เกิดผลกระทบต่อหน้าที่**: การกระทำต้องส่งผลกระทบด้านลบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและสาธารณะ

ควรปรึกษาทนายความหากมีกรณีการกระทำความผิด เพื่อให้ได้คำปรึกษาและการช่วยเหลือที่ถูกต้องตามกฎหมาย.

***************************************

B. ในการฟ้องหรือแจ้งความคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ สิ่งที่ควรเตรียมเพื่อให้พนักงานสอบสวนหรือนักกฎหมายดำเนินการได้มีประสิทธิภาพ คือ:

1. **เอกสารหลักฐาน**: สัญญา, ใบเสร็จรับเงิน, รายการการโอนเงิน, จดหมาย, อีเมล, และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. **พยานบุคคล**: รายชื่อและข้อมูลของบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ หรือเกี่ยวข้องกัน

3. **หลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์**: เช่นลายนิ้วมือ, วัตถุพยาน, และผลการตรวจทางเทคนิค

4. **ภาพถ่ายและวีดีโอ**: ถ่ายภาพสถานที่หรือวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ หรือบันทึกวีดีโอของเหตุการณ์

5. **ข้อมูลทางการเงิน**: รายงานจากธนาคาร, รายการเดินบัญชี, บัญชีการเงิน

6. **คำให้การ**: ข้อมูลที่ผู้แจ้งความหรือผู้เสียหายได้บันทึกไว้

การเตรียมพยานหลักฐานที่ครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปได้ด้วยดีและเพิ่มความน่าเชื่อถือในการดำเนินคดี

***************************************

C. อัตราโทษคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบในประเทศไทยมีหลายมาตรา ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกระทำและความหนักเบาของความผิดที่ก่อขึ้น โดยปกติคดีอาญาประเภทนี้จะได้รับการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญาภาค 2, เนื้อหารวมถึงการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ การรับสินบน และการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งมีบทลงโทษพื้นฐานดังนี้:

### 1. มาตรา 149 (การเรียกรับสินบน)
- **โทษจำคุก:** 5-20 ปี หรือ จำคุกตลอดชีวิต
- **โทษปรับ:** 100,000-400,000 บาท

### 2. มาตรา 157 (การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ)
- **โทษจำคุก:** 1-10 ปี
- **โทษปรับ:** 20,000-200,000 บาท

### 3. มาตรา 162 (การปลอมเอกสารราชการหรือใช้เอกสารที่ปลอม)
- **โทษจำคุก:** 1-10 ปี
- **โทษปรับ:** 20,000-200,000 บาท

### 4. มาตรา 168 (การให้หรือรับสินบนเพื่อให้ข้าราชการกระทำการหรือไม่กระทำการในหน้าที่)
- **โทษจำคุก:** 5-20 ปี หรือ จำคุกตลอดชีวิต
- **โทษปรับ:** 100,000-400,000 บาท

### 5. มาตรา 204 (การทุจริตประพฤติชอบทรัพย์สินของรัฐ)
- **โทษจำคุก:** 5-20 ปี หรือ จำคุกตลอดชีวิต
- **โทษปรับ:** 100,000-400,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีคดีอาญาประเภททุจริตและประพฤติมิชอบอื่นๆ ซึ่งมีบทลงโทษตามกฎหมายเฉพาะเรื่อง เช่น พ.ร.บ. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น

### การบังคับใช้บทลงโทษ
การตัดสินโทษขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และข้อเท็จจริงของคดี รวมถึงการพิจารณาของศาลและองค์ประกอบของการกระทำผิดในแต่ละกรณี ศาลมีอำนาจในการพิจารณาและตัดสินโทษตามความเหมาะสมแก่ข้อเท็จจริงแต่ละกรณี

หากคุณต้องการรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับคดีที่เฉพาะเจาะจง แนะนำให้ติดต่อทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาเพื่อให้คำปรึกษาและการช่วยเหลือในที่เหมาะสม

***************************************

D. การสู้คดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบจำเป็นต้องใช้ความรอบคอบและการวางแผนที่ดี ดังนี้:

1. **หาทนายความที่เชี่ยวชาญ**: ค้นหาทนายความที่มีประสบการณ์สูงในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการชนะคดีได้มาก

2. **รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบ**: รวบรวมและจัดเรียงพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วนและเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร, พยานบุคคล, ภาพถ่าย, วิดีโอ, หรือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์

3. **ศึกษาข้อกฎหมาย**: ทำความเข้าใจกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาหรือสร้างข้อแก้ต่างได้อย่างเต็มที่

4. **วางแผนการพูดคุย**: เตรียมตัวในการตอบคำถามและให้การในศาลอย่างละเอียดรอบคอบ ฝึกซ้อมการพูดคุยและการตอบคำถามกับทนายความ

5. **หาพยานบุคคลสำคัญ**: หาและเตรียมพยานบุคคลที่น่าเชื่อถือและสามารถให้การที่เป็นประโยชน์ได้

6. **สร้างข้อโต้แย้งที่แข็งแกร่ง**: ทนายความจะช่วยคุณวางแผนในการสร้างข้อโต้แย้งที่แข็งแกร่งโดยอาศัยพยานหลักฐานที่มี

7. **ตรวจสอบความถูกต้องของพยานหลักฐานฝ่ายตรงข้าม**: ตรวจสอบและติดต่อทนายเพื่อหาข้อบกพร่อง หรือการขาดความน่าเชื่อถือในพยานหลักฐานฝ่ายตรงข้าม

8. **ใช้นักสืบเอกชนหากจำเป็น**: บางครั้งคุณอาจจำเป็นต้องใช้นักสืบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

ทั้งหมดนี้จะต้องประยุกต์ใช้กับความรู้ทางกฎหมายและสถานการณ์เฉพาะของคดีของคุณ เพื่อให้การสู้คดีมีโอกาสชนะได้มากที่สุด

***************************************

E. รู้กฎหมาย รู้จักทนาย ไม่เสียเปรียบ
การรู้กฎหมายและรู้จักใช้ประโยชน์จากทนายความเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่เสียเปรียบในคดีต่าง ๆ ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำสำคัญ:

### **รู้กฎหมาย**
1. **ศึกษากฎหมายเบื้องต้น**:
- เรียนรู้หลักการและข้อกฎหมายพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง ฯลฯ
- ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์, หนังสือกฎหมาย หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำความเข้าใจ

2. **รู้สิทธิและหน้าที่**:
- ศึกษาสิทธิ์ของตนเอง หน้าที่และข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- เมื่อรู้สิทธิ์แล้ว สามารถปกป้องตนเองและต่อสู้ในกรณีที่ถูกละเมิดได้

### **รู้จักทนายความ**
1. **เลือกทนายที่มีความเชี่ยวชาญ**:
- เลือกทนายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในคดีที่คุณเผชิญ
- ทนายที่เคยจัดการคดีคล้ายคลึงหรือมีประวัติที่ดีจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น

2. **สร้างความสัมพันธ์ที่ดี**:
- สื่อสารอย่างเปิดเผยและซื่อตรงกับทนายความ ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการ
- ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทนายเข้าใจสถานการณ์และพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสม

### **วางแผนและเตรียมการ**
1. **รวบรวมหลักฐาน**:
- เก็บรวบรวมหลักฐานสำคัญ เช่น เอกสาร, ภาพถ่าย, วิดีโอ หรือพยานบุคคล
- ทำสำเนาเอกสารสำคัญเพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย

2. **จัดการพยาน**:
- หาพยานที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
- ทำความเข้าใจและฝึกซ้อมการให้การในศาล

3. **เตรียมตัวสำหรับการติดต่อสื่อสาร**:
- เตรียมคำถาม, ข้อโต้แย้ง, และข้อแนะนำที่สำคัญในการพูดคุยกับทนาย
- ฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้นในการซักถามในศาล

### **ใช้เครื่องมือเสริม**
1. **การวิจัย**:
- ใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อเข้าใจกฎหมายเพิ่มเติมและเรียนรู้จากกรณีคดีอื่น ๆ
- ศึกษาผลลัพธ์ของคดีที่คล้ายคลึงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม

2. **แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม**:
- เข้าร่วมกลุ่มหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
- ใช้บริการที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือศูนย์ให้บริการด้านกฎหมายฟรีสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

การรู้กฎหมาย รู้จักทนาย และเตรียมการอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจและโอกาสในการต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียเปรียบในทุกสถานการณ์
ค้นหาทนายความสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ https://www.thailand-lawyer.info

***************************************

 

Visitors: 47,658