กฎหมายแรงงาน
กฎหมายแรงงาน
1. จ้างแรงงานกับจ้างทำของ แตกต่างกันอย่างไร
2. ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
3. คนทำงานต้องเสียภาษี
4. ตกงาน อย่าตกใจ
5. แรงงานเถื่อน นายจ้างควรระวัง
6. เลิกจ้างโดยลูกจ้าง
7. นายจ้างไม่จ่ายเงินเดือน ลูกจ้างควรทำอย่างไร
8. สิทธิของลูกจ้างหลังเลิกจ้าง
9. ประกันสังคมที่นายจ้างต้องปฎิบัติ
10. เงินทดแทน
11. นายจ้างเรียกหลักค้ำประกันการทำงานของลูกจ้างได้หรือไม่
12. ลูกจ้างอยากทำงานล่วงเวลาเกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้หรือไม่
13. อยากทำธุรกิจจัดหางานต้องทำอย่างไร
14. ทำธุรกิจจัดหางานเถื่อนมีโทษหนัก
15. นายจ้าง ย้ายโรงงาน
ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาข้อมูลสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ www.ใกล้คุณ.com
***************************************
1. จ้างแรงงานกับจ้างทำของ แตกต่างกันอย่างไร (1 of 14)
การจ้างแรงงาน คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่าลูกจ้างตกลงทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง โดยที่ลูกจ้างต้องอยู่ในการกำกับดูแลภายใต้การบังคับบัญชาของนายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้ค่าจ้างเป็นค่าตอบแทนตลอดเวลาที่ทำงานให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 575 นอกจากนี้ การจ้างแรงงานต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พุทธศักราช 2541 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างที่พึงได้ตามกฎหมายอีกด้วย
สำหรับการจ้างทำของ คือ สัญญาของบุคคลหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำงานสิ่งหนึ่งสิ่งใด จนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จของงานนั้นดังนั้นการจ้างทำของ เป็นกรณีที่ต้องการผลความสำเร็จของงาน โดยผู้ว่าจ้างจะจ่ายค่าตอบแทนให้เมื่อผู้รับจ้างทำงานที่ว่าจ้างสำเร็จ ทั้งนี้ ผู้รับจ้างทำงานไม่ต้องอยู่ในการบังคับบัญชาของผู้ว่าจ้างแต่อย่างใด เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 587
ปรึกษาทนายสู้คดี 099 464 4445 ค้นหาทนายได้ที่เวปไซต์นี้ www.สู้คดี.com
***************************************
2. ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง (2 of 14)
นายจ้าง เป็นผู้ที่รับลูกจ้างเข้าทำงานและจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างโดยตรงนอกจากนี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พุทธศักราช 2541 ยังกำหนดให้บุคคลที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้าง ซึ่งอาจจะเป็นกรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ รวมทั้งบุคคลที่นายจ้างมอบหมายให้ดำเนินการต่างๆ โดยมีอำนาจบังคับบัญชาแทนนายจ้าง ย่อมถือว่าเป็นนายจ้างด้วยเช่นกัน แต่หากคำสั่งที่ได้มอบหมายจากนายจ้างขัดต่อกฎหมาย ย่อมถือว่าคำสั่งนั้นเป็นคำสั่งของนายจ้างโดยตรง
สำหรับลูกจ้าง หมายถึง บุคคลผู้ซึ่งตกลงทำงานให้นายจ้าง โดยรับค่าจ้างเป็นการตอบแทน ทั้งนี้ลูกจ้างต้องเป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น ห้ามเป็นการจ้างนิติบุคคล หรือองค์กร ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างชั่วคราวลูกจ้างประจำ และไม่ว่าจะมีกำหนดระยะเวลาการจ้างหรือไม่ก็ตาม ผู้เป็นลูกจ้างจะได้รับคุ้มครองจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานเช่นกัน
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้คุณได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้คุณ.com
3. คนทำงานต้องเสียภาษี (3 of 14)
หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งของประชาชนไทยที่มีรายได้ ก็คือจะต้องเสียภาษี ให้กับรัฐบาล เพื่อที่รัฐบาลจะนำเอาเงินนั้นไปบำรุงและพัฒนาประเทศ บางคนคิดว่าเรื่องภาษี หรือตัวเลขเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย ไม่อยากเกี่ยวข้อง หรือคิดไม่เป็นไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายยังไงหรือเท่าไร ที่จริงการเสียภาษีนั้นก็เหมือนกับข้อกฎหมายอื่นๆ ที่ ประชาชนก็ ควรต้องมี ความรู้และปฏิบัติตามอย่างถูกต้องด้วย ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1) นั้นได้กำหนดและจำแนก รายละเอียดของเงินได้หรือรายได้ที่จะต้องเสียภาษีไว้อย่างละเอียด อาทิ เงินได้ จากการจ้างแรงงาน ทั้งพนักงานในธุรกิจเอกชน และภาครัฐบาล เงินได้เกิดจากการ จ้างแรงงานที่มีคู่สัญญาระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง โดยมีกำหนดระยะเวลาจ้าง โดยลูกจ้างตกลงทำงานให้แก่นายจ้าง หรือหุ้นที่บริษัทแจกให้กับพนักงานก็ต้อง นำมาคิดเป็นเงินได้ที่ต้องประเมินภาษีด้วย
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้ศาล 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้ศาลได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้ศาล.com
4. ตกงาน อย่าตกใจ (4 of 14)
มนุษย์เงินเดือนก็มีความหวังอยู่ที่เมื่องานทำแล้วก็ได้จะได้เงินเดือนมาเลี้ยงปาก เลี้ยงท้องตัวเองรวมทั้งคนในครอบครัว บางคนก็เอามาจ่ายหนี้ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิต แต่ถ้าเกิดเหตุที่ทำให้ต้องตกงานโดยไม่ทันตั้งตัว ก็อย่าเพิ่งตกใจจนเกินเหตุ เพราะระหว่างทำงานลูกจ้างทุกคนจะต้องจ่ายค่าประกันสังคมกับสำนักงาน ประกันสังคมไว้
หากต้องตกงานก็สามารถใช้สิทธิขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคมได้ ตามข้อกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน พ.ศ. 2547 ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งมีรายละเอียดการให้ ความช่วยเหลือแตกต่างกันไป ซึ่งก็จะทำให้เรามีเงินจำนวนหนึ่งมารองรังสำหรับ การเริ่มต้นครั้งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหางานใหม่ หรือคิดจะทำอะไรด้วยตัวเอง
ดังนั้นเรื่องประกันสังคมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อยังมีงานทำก็ควรจะทราบสิทธิ์ ของเราตรงนี้เอาไว้
อยู่กรุงเทพ มีปัญหาปรึกษาทนายกรุงเทพ 099 464 4445 ค้นหาทนายความได้ที่เวปไซต์นี้: www.ทนายกรุงเทพ.com
***************************************
5. แรงงานเถื่อน นายจ้างควรระวัง
แม้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการเข้าสู่ยุคการค้าเสรีระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน แต่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในเมืองยังต้องอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ดังนั้นหากใครสนับสนุนให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ตามมาตรา 64 ซึ่งกำหนดบทลงโทษไว้ว่า ผู้ที่ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจั กรโดยฝ่าฝืน กฎหมายแล้วให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคล ต่างด้าวนั้น เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ใครจะรับแรงงานต่างชาติเข้ามาควรศึกษากฎหมายให้ดีด้วย
ปรึกษาทนายสู้คดี 099 464 4445 ค้นหาทนายได้ที่เวปไซต์นี้ www.สู้คดี.com
***************************************
6. เลิกจ้างโดยลูกจ้าง
การจ้างแรงงานระหว่างลูกจ้างและนายจ้างไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือแต่อย่างใด เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งการจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทน เมื่อลูกจ้างทำงานให้นายจ้าง ลูกจ้างก็ต้องได้รับค่าจ้างเป็นการตอบแทน โดยทั้งสองฝ่ายต่างมีความพึงพอใจต่อกัน หากฝ่ายใดประสงค์จะเลิกสัญญาก็แสดงเจตนาให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้
ส่วนการเลิกจ้าง ลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับค่าทดแทนตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานเป็นจำนวนเท่าใด ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาในอีกกรณีหนึ่ง ถึงแม้จะมีข้อบังคับของนายจ้างว่า ลูกจ้างต้องบอกล่วงหน้าก่อนลาออกอย่างน้อย 30 วัน ก็ไม่สามารถบังคับลูกจ้างให้ปฏิบัติได้ แต่หากลูกจ้างจงใจหรือเจตนาละทิ้งงานทำให้นายจ้างเสียหาย ก็เป็นเรื่องที่นายจ้างจะต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายอีกกรณีหนึ่ง ดังนั้นการที่ลูกจ้างไม่ประสงค์ทำงานให้นายจ้าง จึงเป็นเรื่องของความสมัครใจซึ่งไม่สามารถบังคับกันได้ เมื่อลูกจ้างแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจ้างเพียงฝ่ายเดียวสัญญาจ้างแรงงานก็สิ้นสุด
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้คุณได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้คุณ.com
***************************************
7. นายจ้างไม่จ่ายเงินเดือน ลูกจ้างควรทำอย่างไร
มนุษย์เงินเดือนหรือคนทำงานโดยทั่วไปก็ต้องมุ่งหวังว่าเมื่อทำงานให้เขาแล้ว ถึงเวลาที่ได้ตกลงกันเอาไว้ก็ต้องได้รับค่าจ้างเป็นค่าตอบแทนการทำงานนั้นๆ เพื่อนำไปเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่ก็มักมีกรณีเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ ที่ลูกจ้างไม่ได้รับ เงินเดือนหรือค่าตอบแทนการทำงานตามสิทธิ์ที่ควรจะได้รับจากนายจ้าง หรืออาจเป็นการทำงานวันหยุดไม่ได้ค่าล่วงเวลา หรืออาจถึงขั้นให้ออกจากงาน โดยไม่จ่ายเงินชดเชย
สิทธิโดยชอบธรรมของลูกจ้างนั้นมีระบุไว้ในกฎหมายคุ้มครองแรงงานอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้สามารถไปยื่นคำร้องพนักงานตรวจแรงงาน ในพื้นที่สถานที่ทำงาน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 123 หรือใช้สิทธิ์ฟ้องศาลแรงงานเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นธรรม โดยที่ศาลนี้จะดำเนินการพิจารณาคดีเป็นไปอย่างรวดเร็ว
มีคดีที่ศาลใหน ปรึกษาทนายใกล้ศาลนั้น 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้ศาลได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้ศาล.com
***************************************
8. สิทธิของลูกจ้างหลังเลิกจ้าง
โดยปกติแล้ว สัญญาจ้างแรงงานจะมีบทบัญญัติอยู่ทั้งในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพุทธศักราช 2541 แต่ถ้าข้อกฎหมายใดบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพุทธศักราช 2541 แล้ว จะไม่นำข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้กับสัญญาจ้างแรงงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างอีก เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานเป็นกฎหมายพิเศษ
นอกจากนี้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้มีข้อปฏิบัติอีก 2 ประการ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พุทธศักราช 2541 ซึ่งข้อปฏิบัติดังกล่าวกำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับใบสำคัญ หรือใบรับรองการทำงานจากนายจ้างเมื่อการจ้างแรงงานสิ้นสุดลง และในกรณีที่นายจ้างนำลูกจ้างมาจากต่างถิ่น นายจ้างต้องใช้ค่าเดินทางกลับให้แก่ลูกจ้างด้วยเมื่อการจ้างแรงงานสิ้นสุดลง
อยู่กรุงเทพ ปรึกษาทนายกรุงเทพ 099 464 4445 ค้นหาทนายความได้ที่เวปไซต์นี้: www.ทนายกรุงเทพ.com
*****************************
9. ประกันสังคมที่นายจ้างต้องปฎิบัติ
เมื่อเข้าไปทำงานในองค์กรเอกชน สิ่งที่พนักงานและลูกจ้างควรจะทราบไว้ เพื่อรักษาสิทธิของตนเองคือการยื่นแบบประกันสังคมของนายจ้าง เพราะทุกสถานที่ประกอบการเมื่อรับลูกจ้างเข้าทำงานใหม่ นายจ้างจะต้องดำเนินการยื่นแบบรายชื่อลูกจ้างที่รับเข้ามาภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ลูกจ้างนั้นเป็นผู้ประกันตน หรือทำงานในหน่วยงาน หากนายจ้างไม่ยื่นแบบภายในกำหนดเวลาดังกล่าวถือว่านายจ้างผู้นั้นได้กระทำผิดต่อพระราชบัญญัติประกันสังคม พุทธศักราช 2533 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 96 วรรค 1 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหก เดือนปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปัจจุบันผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากการนำเงินส่งประกันสังคม โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการหักเงินนำส่งของนายจ้าง ซึ่งนายจ้างจะออกให้อีกเท่าหนึ่งของลูกจ้างที่ได้หักเพื่อนำส่งไว้ สิทธิที่ลูกจ้างจะได้รับ นอกจากจะเป็นค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยไข้ หรือได้รับอุบัติเหตุ ผู้ประกันตนยังได้รับเงินบำเหน็จหรือบำเหน็จจากการเกษียณอายุ 55 ปี เมื่อผู้ประกันตนส่งเงินสมทบครบ 15 ปีของการทำงานอีกด้วย เพราะฉะนั้นการยื่นแบบแสดงเงินเดือนของลูกจ้างที่นายจ้างพึงกระทำจะต้องตรงกับความจริงที่ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้กับลูกจ้างรายนั้น แต่หากนายจ้างรายใดไม่ต้องการจะจ่ายเงินสมทบมาก ก็จะแจ้งข้อมูลเป็นเท็จในแบบแสดงรายการที่ยื่น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่ทางกฎหมายกำหนดไว้ หากเป็นเช่นนี้ถือว่า นายจ้างรายนั้นได้กระทำผิดพระราชบัญญัติประกันสังคม พุทธศักราช 2533 มาตรา 34 ประกอบมาตรา 94 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ปรึกษาทนายสู้คดี 099 464 4445 ค้นหาทนายได้ที่เวปไซต์นี้ www.สู้คดี.com
********************************
10. เงินทดแทน
การเจ็บป่วยเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการดำรงชีวิต บุคคลใดที่ไม่เจ็บป่วยถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แต่มนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรที่ร่างกายจะทนแดด ทนฝน หรือทนการใช้แรงงานอย่างหามรุ่งหามค่ำได้ ต้องมีภาวะเจ็บป่วยเป็นของธรรมชาติ ดังนั้นหากขาดการดูแลสุขภาพร่างกาย หรือเกิดอันตรายในระหว่างการทำงาน และขาดการพักผ่อนที่เพียงพอหรือสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมทำงานแต่ยังฝืนทำจนได้รับอันตรายหรือไปเจ็บป่วยในสถานที่ทำงาน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ตามกฎหมายให้นายจ้างรักษาพยาบาลทันทีตามความเหมาะสมแก่อันตรายหรือความเจ็บป่วยนั้น และให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงหรือตามความจำเป็น ตามกฎหมายที่กำหนด แต่หากนายจ้างรายใดไม่จัดให้ลูกจ้างซึ่งประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมายแล้ว ถือว่านายจ้างผู้นั้นได้กระทำผิดพระราชบัญญัติเงินทดแทน พุทธศักราช 2537 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 62 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนแล้ว หลายๆ คนก็อยากจะทำงานกับบริษัทที่มีสวัสดิการที่ดี แต่บริษัทที่ให้สวัสดิการอย่างครบครันยังไม่ครอบคลุมทุกธุรกิจ แต่อย่างหนึ่งที่ทุกบริษัทจะต้องจัดทำคือการนำส่งแบบลงทะเบียนและแบบรายการแสดงรายชื่อลูกจ้างและจ่ายเงินสมทบต่อสำนักงานแห่งท้องที่ที่นายจ้างยื่นแบบลงทะเบียนจ่ายเงินสมทบไว้ หากนายจ้างหรือธุรกิจใดไม่ยื่นแบบดังกล่าวภายในสามสิบวันนับแต่วันที่นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสบทบถือว่า นายจ้างรายนั้นได้กระทำผิดพระราชบัญญัติเงินทดแทน พุทธศักราช 2537 มาตรา 44 ประกอบมาตรา 62 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้คุณได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้คุณ.com
*******************************
11. นายจ้างเรียกหลักค้ำประกันการทำงานของลูกจ้างได้หรือไม่
นายจ้างมีสิทธิเรียกหลักค้ำประกันจากลูกจ้างหรือผู้เข้าทำงานได้ หากหน้าที่หรือความรับผิดชอบของลูกจ้างมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทอง หรือทรัพย์สินของนายจ้างที่เล็งเห็นแล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ แต่ถ้าหากหน้าที่ความรับผิดชอบของลูกจ้างไม่มีความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งนายจ้างได้เรียกหรือรับหลักค้ำประกันการทำงาน หรือหลักประกันการเสียหายในการทำงาน หรือแม้แต่การค้ำประกันด้วยบุคคลจากลูกจ้างโดยมิชอบ ถือว่านายจ้างได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พุทธศักราช 2541 มาตรา 10 ประกอบมาตรา 144 มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มีคดีที่ศาลใหน ปรึกษาทนายใกล้ศาลนั้น 099 464 4445 ค้นหาทนายใกล้ศาลได้ที่เวปไซต์นี้ www.ทนายใกล้ศาล.com
*************************************
12. ลูกจ้างอยากทำงานล่วงเวลาเกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้หรือไม่
การทำงานล่วงเวลา มีความหมายว่าการทำงานนอกเหนือ หรือเกินเวลาทำงานปกติ หรือเกินชั่วโมงทำงานในแต่ละวันที่นายจ้างตกลงกันในวันทำงาน หรือวันหยุดแล้วแต่กรณี ซึ่งการที่นายจ้างไม่อาจอนุญาตให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาได้ตามความต้องการ เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พุทธศักราช 2541 มาตรา 24, 25, 26 และ 144 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาเกินสัปดาห์ละ 36 ชั่วโมง หากนายจ้างรายใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อยู่กรุงเทพ ปรึกษาทนายกรุงเทพ 099 464 4445 ค้นหาทนายความได้ที่เวปไซต์นี้: www.ทนายกรุงเทพ.com
*****************************
13. อยากทำธุรกิจจัดหางานต้องทำอย่างไร
อาชีพนายหน้าจัดหางาน มีหน้าที่ในการสรรหาบุคคลากรที่มีฝีมือและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจรับจัดหางานจะต้องได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากผู้ใดฝ่าฝืนถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พุทธศักราช 2528 มาตรา 8 ประกอบมาตรา 73 มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อยู่กรุงเทพ ปรึกษาทนายกรุงเทพ 099 464 4445 ค้นหาทนายความได้ที่เวปไซต์นี้: www.ทนายกรุงเทพ.com
*****************************
14. ทำธุรกิจจัดหางานเถื่อนมีโทษหนัก
ที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวกรณีนายหน้าหรือบริษัทจัดหางานเถื่อนหลอกลวงให้ไปทำงานต่างประเทศ และมีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พุทธศักราช 2528 มาตรา 91 ตรี ในฐานความผิดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศ และได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หกหมื่นถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขอบคุณข้อมูลจากเพจรู้หมดกฎหมาย มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาข้อมูลสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ www.ใกล้คุณ.com
*****************************
15. นายจ้าง ย้ายโรงงาน
กรณีนายจ้างย้ายโรงงาน โดยปิดโรงงานเก่าแล้วไปสร้างโรงงานใหม่โดยที่ลูกจ้างไม่สามารถไปทำงานในที่ตั้งใหม่ได้ เนื่องจากสถานประกอบการใหม่อยู่ห่างไกลจากบ้านซึ่งไม่สะดวกในการเดินทาง จากกรณีดังกล่าวการย้ายสถานประกอบกิจการไปตั้งท้องที่อื่นของนายจ้างมีผลกระทบต่อการดำรงชีพตามปกติของลูกจ้าง หรือครอบครัว นายจ้างต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนย้าย และหากถ้าลูกจ้างไม่ประสงค์จะไปทำงานด้วย ลูกจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาจ้างได้โดยได้รับค่าชดเชยพิเศษไม่น้อยกว่าอัตราค่าชดเชยปกติ ถ้านายจ้างไม่แจ้งให้ลูกจ้างทราบการย้ายสถานประกอบกิจการล่วงหน้า นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทน การบอกกล่าวล่วงหน้าเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน ทั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 120
มีปัญหาปรึกษาทนายใกล้คุณ 099 464 4445 ค้นหาข้อมูลสู้คดีได้ที่เวปไซต์นี้ www.ใกล้คุณ.com
***************************************