Chat with us, powered by LiveChat

หมิ่นประมาท (มาตรา 326-331)

ตัวบทกฎหมาย

มาตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*[มาตรา 326 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535]

องค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท

  1. ใส่ความ ต้องเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง
  2. ข้อความใดจะเป็นการใส่ความหรือไม่ ต้องพิจารณาตามความรู้สึกของวิญญูชนทั่วไป
  3. ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามนั้น ต้องมีการระบุตัวผู้อื่นที่ถูกใส่ความว่าเป็นใคร หรือต้องเป็นที่เข้าใจได้ว่าหมายถึงบุคคลใด แต่ไม่จำเป็นต้องระบุชื่อคนนั้น
  4. โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง


มาตรา 327  ผู้ใดใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สาม และการใส่ความนั้นน่าจะเป็นเหตุให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษดังบัญญัติไว้ในมาตรา 326 นั้น

มาตรา 328* ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฎไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษรกระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
*[มาตรา 328 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535]

องค์ประกอบความผิด

  1. ต้องเป็นความผิดตามมาตรา 326 เสียก่อน
  2. ต้องเป็นการเผยแพร่ออกไปยังสาธารณะ หากเป็นเพียงเอกสารที่ส่งไปยังบุคคลเฉพาะกลุ่ม ย่อมไม่ผิด

    มาตรา 329  ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
    (1) เพื่อความชอบธรรม  ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
    (2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
    (3) ติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
    (4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
    ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

    มาตรา 330  ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
    แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

เหตุยกเว้นโทษ

  1. จำเลยต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าข้อความที่หมิ่นประมาทเป็นความจริง
  2. หากเป็นเรื่องส่วนตัวนำสืบพิสูจน์ เว้นแต่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน



มาตรา 331  คู่ความ หรือทนายความของคู่ความ ซึ่งแสดงความคิดเห็น หรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

เหตุยกเว้นความผิด

  1. เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
  2. ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติการตามหน้าที่
  3. ติชมด้วยความเป็นธรรม
  4. ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเป็นการเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
  5. การแสดงความคิดเห็นหรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลของคู่ความหรือทนายความ แต่คุ้มครองเฉพาะคู่ความหรือทนายความ ไม่คุ้มครองพยานในศาล



มาตรา 332  ในคดีหมิ่นประมาทซึ่งมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดศาลอาจสั่ง
(1) ให้ยึด และทำลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้อความหมิ่นประมาท
(2) ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมด   หรือแต่บางส่วนในหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา

มาตรา 333  ความผิดในหมวดนี้เป็นความผิดอันยอมความได้
ถ้าผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

 

การกระทำที่เป็นความผิด

คำพิพากษาฎีกาที่ [2822/2515] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] 

 

การกระทำที่ไม่เป็นความผิด 
คำพิพากษาฎีกาที่ [426-427/2520] [10189/2546] [2180/2531] [2155/2531] [1734/2503] [] [] [] [] [] [] [] [] [] [] []



Visitors: 16,220